รองเลขาฯ ปชป. จี้ ฝ่ายค้านเลิกปล่อยข่าวดิสเครดิตการทำงานรัฐบาล ลั่นกลับสร้างความเข้มแข็งให้สามารถเดินหน้าทำงานจนครบวาระ วอนอายุสภาเข้าปีสุดท้าย ควรทำงานตรวจสอบให้เข้าตา ปชช. มากกว่าใช้วาทกรรมกรอกหูจน ปชช.เอือมระอา
วันนี้ (8 พ.ค.) นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้าน ที่มีความพยายามจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงเข้าสู่ปีสุดท้ายของการทำงานของรัฐบาล ว่า ช่วงนี้พรรคฝ่ายค้านต่างงัดกลยุทธ์ ทั้งทางเทคนิคและแท็กติกต่างๆ โดยหวังจะสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาล เช่น การใช้ข้อสงสัยทางกฎหมายตามมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ เรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี โดยตีความว่า จะสิ้นสุดในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ การใช้วาทกรรมเดิมๆ จนชาวบ้านรู้สึกเอือมระอา เพราะว่าไม่ได้เป็นความจริงตามที่พวกเขาพูดกรอกหูอยู่ตลอด และที่ร้ายแรงที่สุด ก็คือ การกล่าวหาโดยไร้มูลความจริง เพื่อหวังผลดิสเครดิตการทำงานของพรรค และรัฐบาล ดังนั้น ตนเห็นว่า การที่พรรคฝ่ายค้านใช้วิธีการดังกล่าว ไม่ได้สร้างความรู้สึกตระหนกตกใจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งที่จะฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องจนครบวาระของรัฐบาล เพราะฉะนั้น ตนคิดว่า ทุกๆ ฝ่าย ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะประชาชนต่างคาดหวังถึงการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายตามหลักการแบ่งแยกอำนาจของระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน ที่ควรจะทำหน้าที่ตามที่ประชาชนคาดหวัง คือ การตรวจสอบการใช้อำนาจและการดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ว่า มีความไม่ชอบมาพากลจนเกิดการกระทำทุจริตอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่แค่ยกวาทกรรมมาลอยๆ และพอมีการพิสูจน์ว่าไม่เป็นตามที่กล่าวหา กลับไม่มีทีท่าที่จะรับผิดชอบใดๆ ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ในการประชุมสภาผู้แทนฯ นั้น ฝ่ายค้านมักจะฉายหนังตัวอย่าง เพื่อให้ประชาชนเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจ และมีความหวังว่า จะได้เห็นบุคคลที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตออกไปจากวงการเมือง แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นว่า ประชาชนตั้งข้อสงสัยฝ่ายค้านเสียเอง เนื่องจากนำหลักฐานที่ไม่มีที่มาที่ไปมาทำให้บุคคลที่ 3 ได้รับความเสียหาย เพราะฉะนั้น ในเมื่ออายุการทำงานของสภาเหลืออยู่เพียง 1 ปี แล้ว ตนอยากให้พรรคฝ่ายค้าน ได้สร้างผลงานการตรวจสอบรัฐบาลให้เป็นที่จดจำของประชาชนและเป็นประโยชน์กับประเทศ มากกว่าการปล่อยข่าวกรอกหูชาวบ้านและใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อสนองความสะใจทางการเมืองชั่วครั้งคราวของตัวเองเท่านั้น
“ผมเชื่อว่า ขณะนี้พรรคฝ่ายค้าน ก็น่าจะรู้ดีว่า ที่ออกมาให้ข่าวทั้งการดิสเครดิตรัฐบาลรายวัน การท้าทายให้ยุบสภาทุก 3 เวลาหลังอาหาร หรือการปล่อยข่าวเพื่อสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับชาวบ้านโดยรวมนั้น ไม่ได้เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น ดังนั้น ผมจึงขอให้ใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งวาร์ปไปถึงอนาคตที่ต้องมีการเลือกตั้ง เพราะผมลองคำนวณเวลาแล้วคาดว่า จะต้องมีการเลือกตั้งตามกำหนดราวๆ อีก 1 ปีข้างหน้า หรือต้นเดือนพฤษภาคม 2566 ดังนั้น ผมเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะใช้เวลาที่มีอยู่นี้ มุ่งมั่นทำงานและริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการฟื้นฟูตามแนวทางวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) หลังจากที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งผมคิดว่า ฝ่ายค้านควรเลิกปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ควรที่จะหันมาทำงานตามหน้าที่ เพื่อที่ให้ประชาชนมีความศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตย และทำให้เชื่อว่า มีนักการเมืองที่รักษาผลประโยชน์ของชาติ มากกว่ารักษาประโยชน์เฉพาะพวกพ้องตัวเองเท่านั้น” นายชัยชนะ กล่าว