น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ หรือ จิ๊บ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 16 ขึ้นเวที "ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร มา SAY ให้คนไร้บ้านกว่า 100 คนได้ฟัง และคนไร้บ้านจะบอก YES ให้กับนโยบายใด"ซึ่งเป็น เวทีปราศรัยแนวทางแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านในกรุงเทพ ของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพ
โดย น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ตนขอพูดจากหัวใจ คนไร้บ้านก็คือ คนเหมือนกัน ถ้ากรุงเทพมหานครคือบ้านของเรา บ้านของเราอาจจะมีหลังคาที่ทำจากสังกะสี แต่บ้านของพี่ ๆ คนเร่ร่อนอาจจะมุ่งหลังคาด้วยท้องฟ้ากลางคืนมีดวงดาว แต่คนไร้บ้านก็คือคนเหมือนกัน ไม่ว่าจะมีทะเบียนบ้านหรือไม่ พวกเรามีอารมณ์โกรธ หิว เสียใจ เหมือนกัน แต่ทำไมหน่วยงานบางที่จึงหลงลืมกลุ่มคนเหล่านี้ กทม.มีคนประมาณ 5.5 ล้านคน มีคนไร้บ้าน 4,500 คน คิดเป็นสัดส่วน 0.008 % ซึ่งไม่เยอะเลย เราสิทธิเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการหายใจ การอยู่อาศัย การใช้น้ำใช้ไฟ
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนไร้บ้านคือ การถูกคุกคามไม่ว่าจะเป็นทางทรัพย์สินหรือทางเพศ ทำให้เห็นว่ากรุงเทพยังไม่ใช่เมืองที่ปลอดภัย ตนเคยไปลงพื้นที่ตรอกสาเก ดูการแจกอาหารและสิ่งของให้กับคนไร้บ้าน และได้น้ำใจที่หยิบยื่นมาให้ ด้วยการให้น้ำตนมา 1 ขวด นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า เขาไม่ได้น่ากลัวแบบที่สังคมตราหน้าจากรูปลักษณ์ ทำไมสังคมกับไม่เห็นตัวตนของพวกเรา นี่คือสอ่งที่ต้องแก้ปัญหา ถึงแม้จะเป็นคนส่วนน้อยของสังคม ต้องยอมรับว่า กทม.ยังดูแลคนกลุ่มนี้ไม่ดีพอ
"การแก้ปัญหาให้บ้านที่ให้เข้าไปอยู่ ถ้าไม่มีความสุขก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ จิ๊บจะไม่บังคับให้คนเร่ร่อนต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่ๆไม่ต้องการ เพราะจิ๊บรู้ดีว่า พี่ๆเร่ร่อนทุกคนต้องการอิสระในการใช้ชีวิต เมื่อการไม่มีบ้านไม่ใช่ปัญหาของคนไร้บ้าน เราจึงต้องมาทำให้กรุงเทพเป็นเมืองปลอดภัยสำหรับคนไร้บ้าน ทุกที่ต้องมีแสงสว่าง กล้องวงจรปิดจะต้องใช้ได้"น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
น.ส.ศศิกานต์กล่าวต่อว่ากฎหมายไม่สามารถบังคับให้คนไร้บ้านเข้าไปอยู่ในบ้านที่เราไม่ต้องการได้ถ้าคนไร้บ้านไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่ตนจะให้มีการลงทะเบียนคนไร้บ้านเพื่อเข้าสู่ระบบสาธารณสุขคนไร้บ้านต้องเข้าถึงการรักษาเหมือนเช่นบุคคลอื่นๆและได้สิทธิเท่าเทียมกันตนจะจัดให้มีบ้านทั่วกรุงเทพฯเพื่อให้คนไร้บ้านสามารถไปลงทะเบียนและเข้าไปพักผ่อนและรับอาหารการกินในแต่ละวันได้เพราะพื้นที่ในกทม.จำนวนมากที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าทิ้งขว้างให้รกร้างคนไร้บ้านจะมีอิสระในการใช้ชีวิตเช้าก็ออกไปทำมาหากินพอกลางคืนก็กลับเข้ามานอนในสถานที่ที่ปลอดภัยรวมไปถึงห้องน้ำสาธารณะจำเป็นต้องมีจำนวนมากขึ้นกว่านี้เพื่อคนไร้บ้านจะได้มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น
"อีกสิ่งหนึ่งที่จิ๊บจะทำให้คนไร้บ้านก็คือจิ๊บจะทำพื้นที่เช่นเดียวกับตรอกสาเกให้ผู้บริจาคที่อยากจะมามอบอาหารสิ่งของเสื้อผ้ากับคนไร้บ้านทั่วกทม.ใครใกล้ที่ไหนก็ไปตามจุดรับบริการนั้นนอกจากนี้โครงการจ้างวานข้าของมูลนิธิกระจกเงาเป็นโครงการที่ดีมากๆที่มีการหางานให้กับคนไร้บ้านซึ่งจิ๊บจะขยายผลต่อจากมูลนิธิกระจกเงาที่ทำดีอยู่แล้วให้มีการขยายงานเติบโตเพื่อให้คนไร้บ้านได้มีงานมากขึ้น"น.ส.ศศิกานต์กล่าว
ทั้งนี้ น.ส.ศศิกานต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 22พ.ค.นี้ที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ตนไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นผู้ว่ากทม.แต่สุดท้ายแล้วแผนนโยบายจะเป็นแค่แผนถ้าเราไม่ใส่ใจที่จะนำลงมาปฎิบัติทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์แบบที่กทม.เคยเป็นมาโดยตนหวังว่าหลังการเลือกตั้งตนต้องการให้คนไร้บ้านใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด
ทั้งนี้ เวทีแสดงนโยบายเกี่ยวกับการดูแลคนไร้บ้าน มีผู้ร่วมเสวนา 5 ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร หมายเลข 1 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หมายเลข 8 น.ต.ศิธา ทิวารี หมายเลข 11 ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ หมายเลข 16 และ วรัญชัย โชคชนะ หมายเลข 22
โดยหลังจบการแสดงวิสัยทัศน์ ผู้จัดงานเปิดให้คนไร้บ้านโหวตเลือกนโยบายที่ชื่นชอบจาก 5 ผู้สมัคร ผลปรากฎว่า
ร้อยละ 56 เลือกนโยบาย “ดูแลกายใจไม่ไร้สิทธิไม่ไร้โอกาส” ของชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ร้อยละ 31 เลือกนโยบาย “กรุงเทพปลอดภัยสำหรับคนไร้บ้าน” ของ ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์
และนโยบาย “คนไร้บ้านไม่ไร้การดูแล” ของ น.ต.ศิธา ทิวารี , ร้อยละ 23 เลือกนโยบาย “คนไร้บ้าน ต้องไม่ไร้สิทธิ” ของ วิโรจน์ลักขณาอดิศร และ ร้อยละ 9 เลือกนโยบาย “คนไร้บ้านที่อบอุ่น” ของ วรัญชัย โชคชนะ
