“ชัยวุฒิ” ยัน เสียงรัฐบาลในสภาแน่น ไม่มีปัญหา ปัด พปชร.คุยนายกฯสำรอง บอกยังไม่ถึงเวลา โยนเป็นเรื่องของสภา เลือกรักษาการนายกฯ เชื่อก่อนซักฟอกฝ่ายค้านปล่อยข่าวโหมโรง
วันนี้ (3 พ.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐประชุมนายกฯสำรอง ว่า ในพรรคไม่ได้มีการประชุมหรือพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ และตามรัฐธรรมนูญก็ไม่มีเรื่องนี้อยู่แล้ว
ส่วนจะต้องมีการเตรียมแผนสำรองหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง กับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ มีเรื่องของรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯต้องพูดคุยกับรองนายกฯ เป็นเรื่องปกติในการบริหารราชการแผ่นดิน หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ต้องมาคุยกัน และเป็นอำนาจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนด้วยที่ต้องหารือกันเพื่อหาทางออกไม่ใช่เรื่องของพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง และมี ส.ว.ร่วมด้วย หากจะมาพูดหรือตัดสินใจอะไรตอนนี้คิดว่าเร็วไป ต้องคุยกันในสมาชิกรัฐสภา พร้อมย้ำว่า ไม่ทราบว่า ขณะนี้มีสถานการณ์ที่ชี้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้หรือไม่ แต่ยอมรับสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่หากจะเกิดอุบัติเหตุจริง จะมีนายกฯคนนอกหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของรัฐสภา ส่วนจะลงมติผ่านหรือไม่ผ่านก็ไม่ทราบ และยังคิดไม่ออกว่าหากมีนายกฯรักษาการจะมีการชิงยุบสภาก่อน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ รัฐสภามีอำนาจในการตั้งนายกฯ จาก ส.ส.และ ส.ว.ร่วมกัน ต้องคุยกันเมื่อถึงเวลานั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา จึงยังไม่มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว
นายชัยวุฒิ มองว่า การที่มีข่าวออกมาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจจะสร้างแรงกระเพื่อมซ้ำรอยการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา ว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายค้าน จะมีการประโคมข่าว สร้างกระแสข่าวหรือกระแสกดดันมาที่รัฐบาล เพื่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น จึงขอฝากสื่อมวลชนให้เสนอข่าวไปยังประชาชนให้เกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลคุมเสียงในสภา และผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้แน่นอน และทำงานให้กับประเทศ เนื่องจากต้องขับเคลื่อนงานหลายด้านทั้งงบประมาณ การพัฒนาประเทศและการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก รัฐบาลอยากเดินหน้าทำงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่น สิ่งสำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นที่ทำให้รัฐบาลทำงานขับเคลื่อนประเทศได้ อย่าทำให้วิตกมากเกินไปจนทำให้รัฐบาลทำงานลำบากก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในที่สุด
นายชัยวุฒิ ยังยืนยนัว่า รัฐบาลคุมเสียงข้างมากในสภาได้ ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมให้ไปถามผู้ที่ออกมาพูดเรื่องการให้เงินค่าหัว ส.ส. 5-30 ล้าน ว่าข้อมูลมาจากไหน ตนไม่ทราบ และยังไม่ถึงเวลาที่ต้องมาเช็กเสียง ส.ส. เพราะยังไม่ถึงเวลาโหวต
ทั้งนี้ ตนได้ยินข่าวเรื่องการใช้เงินซื้อเสียงโหวตสภามาตลอด แต่ก็ไม่มีข้อเท็จจริงอะไรเลย ส่วนกรณี นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่เดินสายกินข้าวกับพรรคฝ่ายค้าน มองเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนตัวก็ยอมรับว่า มีไปกินข้าวกับพรรคฝ่ายค้านบ้าง ขออย่ามองเป็นเรื่องของพรรคหรือมองเป็นการเมือง เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร บางครั้งก็อยู่กรรมาธิการเดียวกัน ก็ไปกินข้าวด้วยกันเป็นธรรมดา ส่วนที่ นายพิเชษฐ ท้าให้พรรคพลังประชารัฐ ขับออกจากการเป็นสมาชิกนั้น นายชัยวุฒิ ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ แต่คิดว่าคงยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะนายพิเชษฐยังไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ไปพูดคุยเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เท่าที่ฟังแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นการทำหน้าที่ของนักการเมือง พร้อมปฏิเสธเรื่องที่นายพิเชษฐพาดพิงถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้ไปถามนายสันติเอง