รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กั๊ก พปชร.เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ เผย วางแนวทางแก้ปรองดองในพรรค ยกประสบการณ์ทางการเมืองการันตีไม่มีดีลจ่ายค่าหัว ส.ส. 5-30 ล้านบาท แลกโหวตล้มรัฐบาล บอกเหลือเวลาไม่กี่เดือนไปจ่ายอะไร
วันนี้ (3 พ.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมยุทธศาสตร์พรรค ว่า จะเริ่มพูดคุยกันว่าเราจะทำอะไรก่อนหรือทำอะไรหลัง เพื่อให้สังคมได้รับประโยชน์จากการทำงานของพรรค โดยจะเป็นการเร่งรัดงานของแต่ละกระทรวงที่รัฐมนตรีของพรรคกำกับดูแลอยู่ เพื่อให้เป็นประโยชน์โดยรวม ย้ำว่า การประชุมจะไม่มีการพูดคุยเรื่องแคนดิเดตนายกฯ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่และเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากการที่จะมาพูดคุยในกรรมการยุทธศาสตร์พรรค แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) ส่วนพรรคจะมีการเปิดเผยทีมเศรษฐกิจได้หรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราจะต้องดูว่าผู้คนเขาอยู่กันอย่างไร เขาอยากให้เราทำอะไรในแนวทางการทำงานในส่วนภาคราชการ มันต้องทำตรงนี้ก่อน เพราะเรายังเป็นผู้มีตำแหน่งอยู่ ก็คงต้องทำในตำแหน่งอีก 10 เดือนที่มีอยู่ เพื่อให้เร่งรัดออกมาไม่ใช่ว่าหมดวาระของรัฐบาลแล้วค่อยมาเร่งมันไม่ทัน และในส่วนของพรรคก็มีรมช.คลังก็คงจะต้องรับในส่วนของตรงนี้ไปอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พรรคจะมีการแก้ปัญหาเรื่องความปรองดองภายในพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าไม่ปรองดองทำอะไรไม่ได้ก็จะมีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว และเราก็มีแนวทางไว้แล้ว ทั้งนี้ ส่วนเรื่องพรรคเล็กที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ถ้าเรามาทบทวนว่าในปีสุดท้ายของรัฐบาลก็จะเป็นอย่างนี้ฝ่ายค้านก็จะมีท่าทีในการติดตามงานของเรา และเราก็มีแนวทางในการที่จะต้องเร่งทำงานของเราให้ออกมาเป็นรูปธรรม เพราะมันถึงเวลาที่จะต้องเอาออกมาแล้วและพรรคเล็กเขาไม่ออกมาพูดอะไรที่ทำให้มีราคามันก็ไม่มีราคา ก็เป็นธรรมดา
เมื่อถามต่อว่า แต่ดูเหมือนพรรคเล็กจะไปหารือกับฝ่ายค้านในการล้มรัฐบาลในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องคุยกันไม่ว่าพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่ต้องหารือกัน พรรคเดียวกันต้องสามัคคีกัน มีความคิดที่ตกผลึกออกมาเป็นแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่ออกมาคนละทิศคนละทาง ไม่ใช่ประชุมทางอากาศ
เมื่อถามอีกว่า นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มีการจ่ายค่าหัวส.ส.หัวละ 5-30 ล้านบาท เพื่อแลกกับเสียงโหวตล้มรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอาจจะกระทบไปถึงการพิจารณาไม่ผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่อย่างนั้นจะใช้เงินอะไรมากมายขนาดนั้น จะไปล้มรัฐบาลหรือนมไข่ในราคานั้นเงินมันมากไป ตัวเลขมันไม่สอดคล้องกับสิ่งที่มันจะเป็นเหตุเป็นผล เพราะรัฐบาลมีเวลาจากวันนี้จนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือในวันที่อาจจะมีปัญหาหรือไม่มีปัญหา มันเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน เขาจะไปจ่ายอะไร 30 ล้านบาท เป็นไปไม่ได้ ไม่น่าเชื่อ ประสบการณ์ตนดูแล้วไม่ใช่ โมเม ส่วนน้อยกว่านี้หรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมี เรื่องล้มไม่ล้มตน ไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่เรื่องตัวเงินอย่าเอามาพูดกันให้เกิดความรู้สึกว่าอะไรต้องใช้เงินไปทั้งหมด ถ้าทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด ไม่มีใครทำงานหรอก ยืนยันว่าไม่มี ไม่เชื่อว่ามี