“สมชัย-วีระ” ยื่น กกต.สอบปมคลิปเสียง “แรมโบ้” ส่อ มั่นใจไม่ใช่เรื่องคุยเล่น หลังถูกบีบลาออก
ท้า “เสกสกล” เร่งแจ้งความ เย้ยเจองัดหลักฐานเด็ดแน่
วันนี้ (29 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. พร้อมด้วย นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนาระบุลักษณะมีการใช้เงินในการเลือกตั้ง 100 ล้านบาท นายสมชัย กล่าวว่า ในคลิปเสียงนั้น มีการกล่าวถึงการใช้จ่ายเงินเป็นร้อยล้านบาทในการเลือกตั้ง ซึ่งคู่สนทนาคือ นางจุรีพร สินธุไพร อดีตข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้มีการยืนยันว่า ในการคุยกันว่าใช่ ซึ่งตนได้นำคลิปเสียงดังกล่าว และคำถอดเทปมาให้ กกต. เพื่อการตรวจสอบ 1. การใช้จ่ายเงินเกินวงเงิน 1.5 ล้าน ที่กฎหมายกำหนด 2. แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นเท็จ และ 3. จะถือเป็นโอกาสหรือไม่ที่จะนำเงินดังกล่าวนั้นไปใช้ในการซื้อเสียง ซึ่งก็จะผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73(1) จึงอยากให้ กกต.ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
“ถ้า กกต.ไม่ตั้งคณะทำงาน ก็ขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะฟ้อง กกต.ทั้งคณะ ในฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จากนี้จะให้โอกาสหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ทำงานก่อน เช่น เรื่องรองเท้าราคาแพงที่นางจุรีพร รับเกินกรอบเงินที่กฎหมายกำหนด ประธาน ป.ป.ช.ก็ควรต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนด้วย
ด้าน นายวีระ กล่าวว่า กรณีคลิปเสียง สังคมเคยคิดหรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วยังออกมาปฏิเสธอย่างหน้าด้านๆ ว่าเป็นเพียงการพูดเล่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การพูดเล่น เพราะอย่างที่รู้ว่าถ้าไม่มีคลิปเสียงนี้ออกมาจะมีความผิดอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ จะมีการต่อรองเรียกเงินอีก 5 ก้อนใช่หรือไหม เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ กกต.ต้องตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบ เพราะเข้าข่ายใช้เงินเกินที่กฎหมายกำหนด และอาจจะมีการนำเงินไปซื้อเสียงด้วย
นอกจากนี้ เงินที่ถูกเรียกอีก 5 ก้อนนั้น นางจุรีพร ก็รับปากใช่หรือไม่ว่าจะไปเรี่ยไรจากน้องๆ และตลอดการคุยกันในคลิปไม่มีเสียงหัวเราะ ทั้งสองพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ผมได้ข่าวว่า นายเสกสกล ให้ นายสนธิญา สวัสดี ไปแจ้งความกรณีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาทกับผมนั้น ก็รออยู่ว่าตำรวจจะมีหมายเรียกผม แล้วผมจะเอาคดีนี้เข้าไปเลย ในเมื่อนายเสกสกลอยากจะเปิดเรื่องเอง ก็ถือว่าดี ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพราะผมยังไม่มั่นใจในกระบวนการตรวจสอบมันจะได้ผลหรือไม่ แต่ถ้าเกิดนายเสกสกลดำเนินคดีกับผม เรื่องนี้จะเข้าสู่ศาลเลย ผมจะรีบเข้าพบตำรวจ รีบให้การในศาล และขอบอกไปถึงนายเสกสกลว่าอย่าถอนคดีนี้ หลักฐานผมเก็บไว้หมด มีคนรู้เห็นหลายคน ทั้ง นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ และแนวร่วม กปปส. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ก็รู้ดีในเรื่องนี้”
นายวีระ เชื่อว่า ถ้านายเสกสกลพูดเล่น แล้วจะถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งเพื่ออะไร หรือเพื่อตัดตอนไม่ให้ถึงใครหรือไม่ เรื่องนี้สังคมไม่ควรจบ ฉะนั้น อย่าปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป การที่นายเสกสกลและนางจุรีพรบอกว่าพูดเล่นกันและลาออกจากตำแหน่งแล้วจบนั้น ตนบอกเลยว่าจบไม่ได้