xs
xsm
sm
md
lg

แฉ “จรัล-ปิยบุตร” นักปฏิวัติ “อีแอบสามนิ้ว” “พิชิตเพื่อนทอน” เตรียมชวน “จตุพร” สามัคคี ปชช.ปกป้องสถาบัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ จรัล ดิษฐาอภิชัย กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล จากแฟ้ม
“ดร.นิว” ฟาดแรง แก๊งสามนิ้วแค่สัญลักษณ์การต่อสู้ใต้ชายกระโปรง แฉ “จรัล-ปิยบุตร” นักปฏิวัติอีแอบ เปิดดีลสามัคคีประชาชน “พิชิตเพื่อนทอน-ทนายนกเขา” เตรียมดึง “ตู่ จตุพร” ร่วม 4 ภารกิจใหญ่ “ป้องสถาบัน”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (28 เม.ย. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ความเหมือนที่แตกต่างของลัทธิ 3 นิ้ว 3 รุ่น 3 ชนชั้น” ระบุว่า

“จรัล ดิษฐาอภิชัย อายุ 74 ปี
จรัล หนีคดีอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เก่งแต่มุดหัวอยู่ใต้กระโปรงคนรุ่นใหม่ แล้วคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก แก่จนอายุปูนนี้ แต่ก็ยังทำตัวเป็นคนรกโลก แถมยังหาความเป็นลูกผู้ชายไม่เจออีกต่างหาก สมเป็นต้นแบบของนักปฏิวัติใต้กระโปรงอย่างแท้จริง อีกอย่างจะเรียกว่า “นักปฏิวัติใต้กระโปรง” ก็ดูจะเป็นการให้เกียรติกันมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ เพราะจรัลเหมาะแก่การถูกขนานนามว่าเป็น “เห็บใต้กระโปรง” หรือ “ปรสิตใต้กระโปรง” เสียมากกว่า

ปิยบุตร แสงกนกกุล อายุ 42 ปี
ปิยบุตร วางตัวราวกับเป็นศาสดาใหญ่ แต่ที่ไหนได้ ที่แท้ก็สืบทอดวิชาปฏิวัติฉบับมุดหัวอยู่ใต้กระโปรงต่อมาจากจรัลนี่เอง เป็นได้แค่หมากตัวหนึ่งให้จรัลสนตะพายอีกที จนกลายเป็นทายาทนักสู้ใต้กระโปรงหมายเลขหนึ่งของจรัล แล้วปิยบุตรก็คอยชี้นำทางความคิดหลอกใช้คนอื่นต่ออีกเป็นทอดๆ แถมปิยบุตรยังเป็นซ้ายคาเวียร์ที่ไร้อุดมการณ์ มือข้างหนึ่งถือตำราคาร์ลมาร์กซ์-เลนิน ส่วนมืออีกข้างก็จิบไวน์ ใช้ชีวิตหรูอยู่สุขสบาย เคลื่อนไหวโดยอาศัยบารมีของนายทุนอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เจ๊เขียว หรือ มิ้นท์ อายุ 29 ปี
มิ้นท์ เป็นตัวอย่างของผลผลิตแห่งความย้อนแย้งขั้นสุด อ้างประชาธิปไตย แต่กลับติด #เยาวชนหญิงแดงรายงาน ตีตราให้ตัวเองราวกับว่าเป็นคอมมี่หลงยุคตามรอยของจรัลกับปิยบุตร อีกอย่างมิ้นท์อายุจะ 30 ปีแล้ว ไม่ใช่เยาวชนแล้วนะ อ้างความเท่าเทียม แต่กลับยอมออกหน้าชนแทนผู้ใหญ่สามนิ้วที่คอยหลบอยู่ข้างหลังอย่างเอารัดเอาเปรียบ

สุดท้ายตัวมิ้นท์เองหรือเปล่าที่จะเดือดร้อนอย่างเดียวดาย อ้างอยากรับเสด็จฯ แต่กลับโพสต์ภาพกิโยตินแสดงถึงความอาฆาตมาดร้ายอย่างดุเดือด อ้างจะปฏิวัติโดยการประกาศแบบกร่างสุดๆ แต่กลับรีบลบโพสต์รูปกิโยตินหนีความผิดแบบปอดแหกสุดๆ เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ถ้าให้เปรียบเทียบในเรื่องของความกล้าแล้ว นับว่า มิ้นท์มีความกล้ามากกว่าผู้ใหญ่สามนิ้วอย่างจรัลกับปิยบุตรอย่างเทียบกันไม่ได้ มิ้นท์กล้าออกมาชนอย่างทุ่มเท ในขณะที่จรัลกับปิยบุตรเอาแต่มุดหัวอยู่ใต้กระโปรงไปวันๆ ทำตัวเป็นเห็บหรือปรสิตใต้กระโปรง ที่ไม่มีแม้แต่ความรับผิดชอบต่อความคิดของตัวเอง คอยแต่ทำนาบนสมองคนอื่น เก่งแต่ปลุกเร้าให้คนอื่นออกหน้าทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเองอย่างน่ารังเกียจ

ในฐานะที่เป็นคนรุ่นเดียวกัน อายุใกล้เคียงกันมาก จึงขอแสดงความหวังดีและความห่วงใยไปถึงมิ้นท์ ไม่อยากให้มิ้นท์ตกเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่สามนิ้วที่คอยแต่เอารัดเอาเปรียบกลุ่มนี้ เพราะถ้าความคิดของพวกเขาดีจริง พวกเขาคงยืนหยัดต่อสู้ด้วยความกล้า ไม่ใช่หลบหนีอย่างขี้ขลาดตาขาว หรือปล่อยให้คนอื่นออกหน้าทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเองอยู่แบบนี้ แต่สุดท้ายถ้ามิ้นท์ไม่ฟัง ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะชีวิตเป็นของมิ้นท์และมิ้นท์ก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มิ้นท์ต้องยอมรับผลจากการกระทำของตัวมิ้นท์เอง

อีกอย่างแนวทางปฏิวัติที่มิ้นท์พยายามเดินตามรอยของผู้ใหญ่สามนิ้วกลุ่มนี้ เป็นแนวทางผิด แถมยังเป็นแนวทางรุนแรง มีแต่จะนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมเท่านั้น เป็นได้เพียงแค่ขบวนการจัดตั้งและโฆษณาชวนเชื่อที่เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน และเหลวไหลเป็นที่สุด คอยหลอกลวงชวนละเมอกันเป็นทอดๆ อาศัยแต่การปั่นกระแสบิดเบือนในการขับเคลื่อน จึงไม่มีวันทำสำเร็จ พวกเขาเลยทำได้แค่หาคนรุ่นใหม่กว่า ให้ออกหน้าทำผิดติดคุกติดตะรางแทนพวกเขาอยู่เช่นนี้เรื่อยไป ในขณะที่มิ้นท์คนเดิมที่เป็นครูนาฏศิลป์อาสา กลับมีความเป็นนักปฏิวัติทางความดีและมีคุณค่าในตัวเองอย่างน่าชื่นชมอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องลดตัวไปเกลือกกลั้วกับขบวนการปฏิวัติปัญญาอ่อนนี่เลย

วันก่อนขอบคุณชายกระโปรงของน้องตะวัน วันนี้ต้องขอบคุณชายกระโปรงของมิ้นท์ ที่สะท้อนให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ได้เห็นถึงการเอารัดเอาเปรียบคนรุ่นใหม่จากบรรดาผู้ใหญ่สามนิ้วทั้งหลาย อีกทั้งยังได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความตกต่ำของการชูสามนิ้ว ซึ่งได้กลายเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของการต่อสู้ภายใต้ชายกระโปรง ไปเสียแล้ว (จากสยามรัฐออนไลน์)

ภาพ นายพิชิต ไชยมงคล จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน พิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย หนึ่งในผู้ที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สมัยเป็นนักศึกษา ในนามสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) โพสตข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“สามัคคีประชาชน
พรุ่งนี้ 28 เมษายน 2565 เวลา 13.00 น.
ผมและพี่นกเขา ทนายนิติธร ล้ำเหลือ จะไปพูดคุย หารือ วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมือง การเมือง กับ จตุพร พรหมพันธุ์
เพื่อความเข้าใจต่อ สถานการณ์ร่วมกัน
เราได้หารือร่วมกันภายใน หมายถึงเฉพาะส่วนของพวกเรามาหลายวง หลายคน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่พี่น้องหลายคนรู้จักดี มาหลายครั้ง แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ

ภาพ นายนิติธร ล้ำเหลือ จากแฟ้ม
เรามีความเห็นร่วมกันในการทำงาน สามัคคีประชาชน จึงได้ประสานไปยัง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ เพื่อพบปะพูดคุย โดยมี ทนายนกเขา และผม เป็นผู้ทำงานประสานความร่วมมือ

โดยมีภารกิจในเชิงยุทธศาสตร์คือ
1. ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
2. เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย
3. ต่อต่านการทุจริต คอร์รัปชัน
4. สามัคคีคนไทยต้านภัยการเมืองโลก

4 ภารกิจนี้ เป็นเงื่อนไขสำคัญในการ สร้างสามัคคีประชาชน ลดเงื่อนไขอคติทางการเมือง สร้างประโยชน์ร่วมในการพาบ้านเมืองเดินหน้า สามัคคี
แน่นอน อาจมีพี่น้องไม่เห็นด้วย
มีคำถาม ว่าทำไมต้องไปเจอ จตุพร
ถ้าคิดทำงานใหญ่ ยังมัวมีอคติ สีเสื้อ ประเทศ ประชาชน ก็จะยังแบ่งฝ่ายตีกันอยู่แบบในอดีต
และจะมีคน อาศัยสถานการณ์นี้ บั่นทอนประชาชนไปเรื่อยๆ
นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นที่อาจถูกด่า แต่ถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำ แล้วใครจะทำ
#ภารกิจสามัคคีประชาชน
#เดินถนนก็ต้องถูกหินตำเป็นธรรมดา (จากสยามรัฐออนไลน์)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ การต่อสู้ที่เห็นตัวตนระหว่าง ฝ่ายที่ต้องการปกป้องสถาบัน และความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อสู้กับภัยจากภายนอกประเทศ ที่อาจมาพร้อมกับการแทรกแซงทางการเมือง ผ่านการเคลื่อนไหวของขบวนการแอบอ้าง “ประชาธิปไตย” กับฝ่ายที่ต้องการ “ปฏิรูปสถาบันฯ” และอ้างนำพาประเทศไปสู่เสรีประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ จะเป็นไปอย่างเข้มข้นนับแต่นี้

นอกจากนี้ การปลุกปั่นให้คนไทยมีความคิดคล้อยตาม หรือ ร่วมขบวนการต่อสู้ โดยเฉพาะ “คนรุ่นใหม่” ที่ภูมิต้านทานทางความคิดความเชื่อยังน้อย ก็จะรุนแรงตามไปด้วย

ที่สำคัญ ถ้าหากการเมืองไทย และความสามัคคีของคนในชาติ ยังเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ก็นับว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะโอกาสที่จะถูกชักนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรงมีความเป็นไปได้สูง

แต่ก็ยังไม่สายเกินไป ถ้าหากวันนี้คนไทยรู้เท่าทันปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือตัดไฟเสียแต่ต้นลม หาไม่แล้ว ก็ไม่อาจโทษใครได้เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น