xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ขอสานต่อนโยบายพลังงาน Energy For all หนุน ศก.ฐานราก พร้อมดันแก้ กม.เปิดทาง ปชช.ผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ใช้เอง-ขายรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิรัตน์” ยกพลลงพื้นที่ จ.แพร่ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทน ประกาศสานต่อนโยบายพลังงาน “Energy For all” หนุนเศรษฐกิจฐานราก พร้อมผลักดันแก้ กม.ให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ใช้เอง-ขายคืน รบ.ทั่วประเทศ ลั่นพรรคพร้อมลุยเลือกตั้งทุกเมื่อ

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 65 ที่ศูนย์เรียนรู้พลังงานทดแทน โรงเรียนเชตวันวิทยา ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมด้วยนายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค, นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และ นายบุญส่ง ชเลธร สมาชิกพรรค ร่วมลงพื้นที่พบปะผู้นำชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชน ปราชญ์ชุมชน กว่า 200 คน จาก 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.แพร่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยมี พระครูโสภณปัญญาธร เจ้าอาวาสวัดเชตวันวิทยา ให้การต้อนรับ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นายสนธิรัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า สถานการณ์โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางความไม่แน่นอนและผลกระทบจากปัจจัยที่เหนือการควบคุมอย่าง เช่น โรคระบาดโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาโลกร้อน รวมถึงการดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาสู่การสร้างเงื่อนไขใหม่ๆ ในสังคมโลก ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งจากภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคมเพื่อรับมือต่อสถานการณ์การดังกล่าว และหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ปัจจัยดังกล่าว ก็คือ การสร้างเศรษฐกิจฐานให้แข็งแรงซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย 5 สร้างของพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งการมาที่ จ.แพร่ ครั้งนี้ ตั้งใจมาเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนโรงเรียนเชตวันฯ และพบปะรับฟังข้อเสนอเชิงนโยบายจากผู้นำชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชน ปราชญ์ชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ 9 จังหวัดในภาคเหนือ

“ศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนโรงเรียนเชตวัน ที่ขับเคลื่อนโดย พระครูโสภณปัญญาธร ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของระบบเศรษฐกิจฐานรากที่ครบวงจรทั้งด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการสร้างอาชีพชุมชน ที่พัฒนาคู่ขนานนวัตกรรมต่างๆ เช่น การประยุกต์ใช้ถ่านเป็นพลังงานทดแทนแก๊สแอลพีจี ในครัวเรือน และน้ำมันเบนซินที่ใช้ในรถตุ๊ก ตุ๊ก” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้รับฟังการดำเนินงานโครงการฝายมีชีวิต จากเครือข่ายชุมชน จ.น่าน ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจในด้านการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาน้ำท่วม การพังทลายของหน้าดินต่างๆ เพื่อสร้างแหล่งน้ำชุมชน ต่อยอดกลายเป็นแหล่งอาหารของชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสำคัญของแหล่งน้ำ ที่เห็นได้ชัดว่าหากมีแหล่งน้ำที่ไหน ความอุดมสมบูรณ์ก็จะตามมา

“สิ่งต่างๆ ที่ได้แลกเปลี่ยนในวันนี้สอดคล้องกับนโยบาย 5 สร้างของพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งพรรคฯ จะนำข้อมูลทั้งหมดทั้งปวงนี้ไปบูรณาการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและกลั่นกรองเป็นนโยบายที่พรรคจะใช้ขับเคลื่อนในเชิงพื้นที่ให้ตอบโจทย์ชุมชนและประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาปากท้องและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” เลขาฯสร้างอนาคตไทย ระบุ

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า การขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจฐานรากของพรรคสร้างอนาคตไทยทั้งเรื่องพลังงาน และเรื่องการส่งเสริมสินค้าชุมชน จะไม่รอเลือกตั้ง ไม่รอการเป็นรัฐบาล แต่จะขอมาร่วมกับแกนนำที่เข้มแข็งอย่างเช่น พระครูโสภณปัญญาธร ที่เริ่มต้นไว้แล้ว เพื่อขยายไปสู่จังหวัดเครือข่ายทั่วประเทศให้ได้ โดยพรรคสร้างอนาคตไทยมองว่า ชุมชนรากหญ้าทั่วประเทศมีศักยภาพจากทรัพยากรในฐานะประเทศเกษตรกรรมอยู่แล้ว หากมีนโยบายเข้าไปพัฒนาที่ตอบโจทย์กับศักยภาพของพื้นที่ ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาแหล่งน้ำ การเข้าถึงพลังงาน และการพัฒนาอาชีพท้องถิ่น เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเข้มแข็งทั้งในส่วนของชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้

“พรรคสร้างอนาคตไทย ให้ความสำคัญทั้งเรื่องการต่อยอดสิ่งที่ชุมชนทำมาดีอยู่แล้ว ควบคู่กับการเติมในส่วนที่ขาด พร้อมทั้งส่งเสริมในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” นายสนธิรัตน์ ระบุ

นายสนธิรัตน์ ยังได้กล่าวแนวคิดการขับเคลื่อนนโยบายด้านพลังงาน ว่า นโยบายพลังงานถือเป็นปัจจัยต้นๆ ที่จะมีส่วนช่วยสร้างให้สร้างเศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นรากฐานผลักดันเศรษฐกิจระดับประเทศให้เติบโตในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน โดยพร้อมเปิดรับข้อเสนอเชิงนโยบายจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อจับมือสร้างอนาคตเศรษฐกิจฐานรากไทยไปด้วยกัน

“ผมจะมาสานต่อนโยบาย Energy For All ที่ริเริ่มไว้เมื่อครั้งเป็น รมว.พลังงาน โดยจะประกาศนโยบายให้ประชาชนสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าใช้เองทั่วประเทศ และขายคืนส่วนเกินให้กับรัฐบาล โดยจะผลักดันให้มีการแก้หลักเกณฑ์และกฎหมายให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานและเป็นเจ้าของพลังงานเพื่อสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนทั้งในเรื่อง Net Metering และ Smart Meter” อดีต รมว.พลังงาน กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยุบสภา พรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมในการเข้าสู่สนามเลือกตั้งแค่ไหน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคได้ประชุมใหญ่ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคได้มีการตั้งขุนพลของพรรคทั้ง 5 ภาค ที่จะมาดูแลการหาเสียงเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ ยืนยันว่า พรรคมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทุกเมื่อ

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงความพร้อมของผู้สมัครใน จ.แพร่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการการพิจารณาตัวผู้สมัครอยู่ ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยมีผู้สมัครเข้ามากในแต่ละพื้นที่ จึงต้องมีกระบวนการคัดเลือกคนที่เหมาะสมและเป็นคนที่ประชาชนยอมรับและให้ความไว้วางใจ และเป็นคนที่มีอุดมการณ์ที่จะสร้างอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกับพรรค

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พรรคคาดหวังที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคจะพิจารณาจากผลการเลือกตั้ง วันนี้ยังเร็วเกินไปที่ตอบว่าจะเป็นอะไร และยังไม่ทราบว่าประชาชนจะมอบความไว้วางใจให้พรรคใด แต่ขอให้มั่นใจว่าเราเคารพในเสียงของพี่น้องประชาชน.








กำลังโหลดความคิดเห็น