xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” สตาร์ท! ลงพื้นที่ ถ.เจริญนคร เปิดป้ายหาเสียงผู้ว่าฯ กทม.แบบไม่ขวางทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีต ส.ว.กทม.หาเสียงผู้ว่าฯ วันแรก ริม ถ.เจริญนคร ชูป้ายแบบไม่ขวางทางสัญจร เผย แฟนคลับสงวนไว้ให้ รับออกสตาร์ทช้า เหตุไม่มีงบมาก เน้นอาศัยคนช่วย ลั่นนโยบายไม่ไล่จับหาบเร่ บอกคุยกับชาวบ้านหนุนเสียภาษีริมทาง แลกเก็บค่าที่ เชื่อชาว กทม.มีวิจารณญาณ หลายคนรู้จักชื่อตน

วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ ถ.เจริญนคร เขตคลองสาน กทม. เมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 7 ได้เดินทางมาเปิดตัวป้ายหาเสียงบนทางเท้าหน้าพื้นที่ของเอกชนบน ถ.เจริญนคร ระหว่าง ซ.เจริญนคร 19-21 พร้อมลงหาเสียงกับร้านค้าริมทางเท้า และร้านบนพื้นที่ ถ.เจริญนคร เป็นวันแรก หลังจากสมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

โดย น.ส.รสนา ให้สัมภาษณ์ก่อนหาเสียง ว่า นโยบายของตนจะไม่ให้มีการไล่จับหาบเร่แผงลอย เพราะเป็นซิกเนเจอร์ของไทย และจะไม่ให้มีการเรียกส่วย จะพยายามทำให้คนได้ทำมาหากินแล้วเสียภาษีให้กับรัฐ แทนที่จะจ่ายเป็นส่วยให้กับใครก็ตามที่ไปไล่จับ โดยจะจัดพื้นที่ให้ขายของแบบถูกกฎหมายพร้อมรักษาความสะอาด เราต้องการให้มีอาหารปลอดภัยสำหรับคนเดินถนน มนุษยเงินเดือน คนจน ในการที่จะอยู่ร่วมกันได้

นอกจากนี้ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ยังพูดถึงนโยบายต่างๆ ของตน ทั้งสนับสนุนฟ้าทะลายโจรและยาไทย เพื่อให้ทุกคนสามารถที่จะอยู่ได้อย่างมั่นใจในสถานการณ์โควิด-19 โดยไม่ต้องปิดเมือง พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้เอกชนติดตั้ง CCTV, ขุดลอกคูคลอง เพื่อระบายน้ำ ฟื้นฟูตลาดน้ำ สร้างที่สัญจรทางน้ำ เพิ่มการจ้างงาน, ไม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้า BTS และลดราคาเหลือ 20 บาท, สร้างบำนาญประชาชนเพิ่มเบี้ยคนชราอีก 2,400 บาท, สนับสนุนชาว กทม.ใช้โซลาร์รูฟ เพื่อประหยัดไฟ, ทำแอปพลิเคชันส่งอาหารของ กทม.แบบไม่ต้องหักค่าหัวคิว และยืนยันว่า ถ้าหยุดโกงกรุงเทพฯ เปลี่ยนแน่

น.ส.รสนา ยังกล่าวถึงกรณีที่เพิ่งเริ่มติดป้ายหาเสียง ว่า เราไม่มีเงินมาก เราอาศัยคนที่มามีส่วนช่วย อย่างที่ตรงนี้เป็นของแฟนคลับที่เขาสงวนไว้ให้กับตน หลังจากศึกษาข้อกฏหมายแล้วไม่สามารถติดบนพื้นที่เอกชนได้ ตนจึงต้องยื่นออกมาบนพื้นที่สาธารณะแล้วพิงกับสังกะสีเพื่อไม่ให้รบกวนทางสัญจร โดยต่อไปอาจใช้ขาตั้งไปวางบนพื้นที่สาธารณะหน้าบ้านเรือนของคนที่อนุญาตให้ติดตั้ง โดยจะทำเท่าที่เป็นไปได้ และจะแชร์ลงไปในโซเชียลมีเดียเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเห็น ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า ป้ายอาจมีจำนวนน้อยมากราว 1,000-2,000 ป้าย ทั่ว กทม.และอาจจะใช้ถุงปุ๋ยเสียบไว้กับเสาไฟฟ้าด้วย

จากนั้น น.ส.รสนา ได้เดินหาเสียงบนพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเวลา 1 ชม.ก่อนให้สัมภาษณ์กับ ผู้จัดการออนไลน์ ว่า เราได้เจอแม่ค้าหาบเร่ แผงขายอาหารริมทาง ก็บอกว่า ถูกเก็บค่าที่ 300 บาทต่อเดือน โดยส่วนใหญ่สนับสนุนให้เก็บภาษีอย่างถูกต้องมากกว่าจ่ายเงินแล้วไม่รู้ใครเอาไปทำอะไร บางส่วนก็อยากให้ผู้บริหารมาฟังบ้างว่าเดือดร้อนเรื่องอะไร พร้อมกับเห็นด้วยต่อนโยบายที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรง

“ดิฉันคิดว่า กทม.คือ แม่บ้าน เราต้องฟังเจ้าบ้าน และดิฉันเองก็อาสาสมัครเป็นหัวหน้าทีมแม่บ้านเราก็จะทำให้เรื่องของการที่จัดสรรทรัพยากรของชาว กทม.เพื่อที่จะกระจายให้กับทุกๆ คนอย่างเท่าเทียมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งถ้าเราทำอย่างนี้แล้วเราเปิดโอกาสให้คน กทม.มีส่วนร่วม เราก็จะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะ กทม.เป็นเมืองใหญ่ เราจะไปรับเหมาทำแทนทุกอย่างโดยที่เขาไม่รู้ไม่เห็นมันก็ไม่มีประโยชน์” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

เมื่อถามว่า การมาลงพื้นที่ครั้งแรกในวันนี้ ทำให้มั่นใจได้มากแค่ไหนกับการชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯ กทม. น.ส.รสนา กล่าวว่า ตนคิดว่าคน กทม.มีวิจารณญาณ ถึงแม้ว่าตนจะบอกว่าเป็นผู้สมัครอิสระ ไม่มีกลุ่มทุน ไม่มีนักการเมืองมาหนุน เราก็ทำได้แบบทีมเล็กๆ แต่ตนก็เชื่อว่า คน กทม.ที่เคยรู้ประวัติการทำงานของตนว่าไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อน และตลอดเวลาที่ตนทำมาก็ได้ทวงคืนสาธารณสมบัติแผ่นดินและพยายามต่อสู้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆ ของประเทศ ของประชาชน เขาก็จะเห็นในส่วนนี้มากขึ้น เพราะเวลาที่เดินหลายพื้นที่ก็บอกว่ารู้จักชื่อตน อย่างพื้นที่ติดป้ายตรงนี้ก็เป็นแฟนคลับที่อยากมาให้ใช้

“แต่ก็ระวังในเรื่องของกฏหมายต้องตั้งบนพื้นที่สาธารณะ แต่มันก็ไม่กีดขวางทางเดินเท้าของคนที่นี่ เพราะดิฉันให้ความสำคัญที่เราอยากมาแก้ปัญหาให้ประชาชน เราต้องเริ่มจากจุดแรก ไม่ใช่ว่าจุดแรกก็ทำความเดือดร้อนให้แล้วแล้วเราบอกว่าถ้าเราได้เป็นเราจะแก้ปัญหาให้เขามันก็ดูไม่น่าเชื่อถือ แต่เราก็คำนึงถึงรายละเอียด ถึงแม้เราจะมีป้ายน้อย แต่ยุคสมัยนี้มันเป็นยุคโซเชียลมีเดีย ยุคดิจิตัล ถ้าแฟนคลับที่เขาเห็นด้วย เขาก็สามารถช่วยดิฉันกระจายข้อความ นโยบายเหล่านี้ ออกไปได้” อดีต ส.ว.กทม. กล่าว

นอกจากนี้ น.ส.รสนา ยังยอมรับว่า ไม่รู้จักกับผู้อนุญาตให้ติดตั้งหน้าพื้นที่เป็นการส่วนตัว แต่รู้จักเพราะติดตามการทำงานของตนต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจที่มีประชาชนเห็นถึงแม้ว่าไม่ได้มาหาเสียงกับเขา โดยหลังจากนี้ ก็จะนำป้ายไปติดตามพื้นที่ที่มีคนอนุญาตแต่ต้องคำนึงกฏหมายของ กกต.ด้วย

ด้าน นายสมเลิศ เมธาภาคย์ เจ้าของพื้นที่ที่อนุญาตให้ติดป้ายหาเสียง กล่าวว่า ตนติดตามผลงานของ น.ส.รสนา มากว่า 25 ปี ก็เป็นคนที่มีความตั้งใจ ตนก็มีความรู้สึกว่าทุกคนก็มองเป็นม้านอกสายตา อย่างน้อยก็น่าจะมีสักคนที่ไปช่วยกระจายนโยบาย โดยส่วนตัวก็ไม่เคยอนุญาตให้ใครติดตั้งมาก่อน แต่มีความรู้สึกว่า น.ส.รสนา มีความตั้งใจ และทุนน้อย โดยตนเป็นคนติดต่อไปทางผู้ประสานงานเพื่อให้มาติดตั้งป้ายในพื้นที่เอง






























กำลังโหลดความคิดเห็น