จับได้ไล่ทัน! พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ จับตอแหล “แม้ว” สอนคนอื่น อย่าดึงเบื้องสูง คงลืมเหตุการณ์ 8 ก.พ. 62 ทำอะไรไว้ “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” มอง “ยูเครน” สะท้อนถึง “ไทย” ธาตุแท้นักการเมือง กับ “ผลประโยชน์ส่วนตัว”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“คำพูดของทักษิณในรายการแคร์ 29 มี.ค. บางตอนน่าสนใจมาก!
“ทำไมท่านอยู่เบื้องสูงแล้วไปเอาท่านลงมา ... เรื่องนี้พระเจ้าอยู่หัวท่านอยู่สูง ท่านไม่มายุ่งกับการเมือง ... การเมืองสกปรก อย่าไปเอาท่านลงมา อันนี้เป็นสิ่งที่เลวทรามมาก” (พูดถึงพรรคสุดารัตน์)
“พระเจ้าอยู่หัวท่านอยู่สูง อย่าเอาท่านลงมายุ่งการเมือง กกต. ก็ต้องระวัง ถ้ามีใครมีพฤติกรรมแบบนี้” (พูดถึงพรรคไทยภักดี)
“อย่าบังอาจเอาเรื่องในวังมายุ่งการเมือง ... ไม่ต้องไปเอ่ยถึงเจ้านายทั้งต่อหน้าและลับหลัง” (พูดถึงการอ้างมีไลน์)
ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เช้าวันที่ 8 ก.พ. 62 พรรคไทยรักษาชาติ ไป กกต.เสนอชื่อทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ เป็นว่าที่นายกฯ คืนนั้นพระมหากษัตริย์มีพระราชโองการ ระบุว่า “การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์ มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง”
ทักษิณคงลืมเหตุการณ์นี้ไปหมดแล้ว? (จากไทยโพสต์)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 65 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ชื่อ “โทนี่ วู้ดซัม” ร่วมสนทนาผ่านคลับเฮาส์ในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse หัวข้อ “มองเมืองดูไบ ใส่ใจกรุงเทพฯ ถึงตัวอยู่ไกล แต่ใจยังคิมิโนโตะ” โดยตอนท้าย นายทักษิณ พูดว่า
“อยากพูดถึงความไม่สบายใจบางเรื่อง มีคนที่ออกจากพรรคผม เป็นคนที่พูดไปพูดมา ไปเจอพวกไฮโซทั้งหลาย เขาก็ถามว่าทำไมออกจากผม รู้ไหมว่าเขาตอบว่าอย่างไร เขาตอบว่าผมไม่เอาในหลวง ท่านอยู่เบื้องสูง ทำไมไปดึงท่านลงมา
จริงๆ แล้วขอเรียนว่าผมไม่เคยมีอคติ หรือความไม่เคารพพระเจ้าอยู่หัวเลย เพราะผมถวายงานท่านตั้งแต่เป็นนักธุรกิจ ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ ไฮโซทั้งหลายก็มาถามผมว่าจริงหรือ ผมเลยเล่าให้ฟัง และคนๆ เดียวกันนี้ก็ไปชวน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่ามาอยู่พรรคเขาเถอะ พรรคเพื่อไทยถูกยุบแน่เพราะในหลวงไม่เอา บังอาจจริงๆ ไม่น่าเลย”
เรื่องนี้พระเจ้าอยู่หัวท่านอยู่สูง ท่านไม่ยุ่งกับการเมืองการเมืองสกปรกอย่าไปเอาท่านลงมา นี่เป็นสิ่งที่เลวทรามมาก เมื่อไปถึงพื้นที่ก็ไปบอกคนในพื้นที่อีกว่านี่เป็นพรรคสาขากัน เลือกใครก็เหมือนกันแหละ สับสนกันไปหมด ดังนั้น ผมถือว่าใครออกจากพรรคเพื่อไทยถือเป็นลูกน้องเก่า แวะมาดูไบก็กินข้าวกับผมได้ตลอด ขอแค่อย่าด่าพ่อล่อแม่ผมเท่านั้น” (จากสยามรัฐออนไลน์)
ขณะเดียวกัน วันนี้ (1 เม.ย.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“อย่าให้ถูกหลอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน สอนให้เรารู้ว่า นักการเมืองเลวๆ มีทุกชาติ เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจ พร้อมเอาชีวิตคนในชาติเสี่ยงเจ็บตายอย่างไม่แยแส
นักการเมืองกลุ่มนี้เหมือนกันหมด ปั้นน้ำเป็นตัว ชอบ ดรามา โปรตะวันตก เอาผลประโยชน์ประเทศไปแลกผลประโยชน์ส่วนตัว คนกลุ่มนี้ “ปากประชาธิปไตยใจเผด็จการ” รวบอำนาจ ทำลายฝ่ายค้านหรือให้มีนักการเมืองฝ่ายค้านน้อยที่สุด ทำลายทุกคนที่ไม่ร่วมมือเพื่อความสะดวกในการคอร์รัปชัน
มีกองกำลังส่วนตัว นายเซเลนสกี สนับสนุนให้มีกองกำลังอาซอฟที่เป็นกลุ่มหัวรุนแรง คนที่บอกว่า อาสาเข้ามารับใช้ประชาชน ผลักประชาชนให้จับอาวุธสู้ แต่พวกตัวเองหอบเงินทองของมีค่าหนีออกนอกประเทศ
นักการเมืองอย่างนี้ที่เมืองไทยเราก็เคยมี แถมสืบทอดกันเป็นตระกูล อยากเตือนคนไทยว่า เจ็บแล้วต้องจำ (จากสยามรัฐออนไลน์)
แน่นอน, ทั้งสองเรื่อง ที่ต่างคนต่างโพสต์ แต่กลับมีประเด็นที่น่าสนใจคล้ายกัน นั่นคือ ความโกหกตอแหลของนักการเมือง และการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน อย่างแท้จริง
จนแทบพูดได้ว่า ทั้งสองเรื่อง คือ “ธาตุแท้ของนักการเมืองเลว” นั่นเอง ส่วนนักการเมืองน้ำดี มีคุณภาพ ทำงานเพื่อประชาชน ประเทศชาติ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ก็ขอละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกัน
โดยเฉพาะนักการเมืองใหญ่บางคน ยิ่งพูดมากก็ยิ่งเข้าตัวเอง ยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งทำให้จับตอแหลหน้าด้านๆ ได้
แต่ทั้งหมดทั้งปวงอยู่ที่คนไทยจะพิจารณาว่า จริงอย่างที่มีการจับโกหกตอแหลหรือไม่ เพราะนักวิชาการ ฝ่าย ปชต.อุตส่าห์ ยกตัวอย่างมาขนาดนี้ ยังไม่ลืมหูลืมตาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว