รวมไทยยูไนเต็ด ส่งส.ก.เขต สาทร และพญาไท ทวงคืน"ไฟฟ้า-ประปา"สาธารณูปโภคพื้นฐาน ให้ กทม.

วันที่ 30 พ.ค.นายณัฐนันท์ เอกศิริวรากิตติ์ (ต้ำ) ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสาทร startup หนุ่มแห่งวงการพลังงานทางเลือก และ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตพญาไท และนายกอบกฤต สุขสถิตย์ (หนุน) อาจารย์ด้านการวางแผนกลยุทธ์ Strategic management และ การตลาดดิจิทอล Digitalmarketing ที่เล็งเห็นถึงปัญหาที่ทำให้การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนของกทม.ต้องชะงัก เนื่องจากว่าสาธารณูปโภคพื้นที่อย่าง ไฟฟ้า และ ประปา ยังอยู่นอกเหนือการบริหารจัดการของ กทม.

นายณัฐนันท์ว่าที่ผู้สมัคร สก. เขตสาทร กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจในแวดวงพลังงานทางเลือกก็พบว่า ประชาชนทั่วไปต่างก็พร้อมที่ปรับตัวมาใช้พลังงานทางเลือก แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารงานของภาครัฐบางส่วนส่งผลให้การตื่นตัวของประชาชนในการใช้พลังงานทางเลือกน้อยลง การขายคืนไฟจากการลงทุนของประชาชนในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดูจำกัดด้วยการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ดังนั้นการที่จะผลักดันให้มหานครอย่างกทม. เข้ามามีอำนาจในการบริหารการไฟฟ้าด้วยตัวเอง คงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้มากกว่าการกำกับดูแลจากส่วนกลาง ทั้งนี้เขตสาทรซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ มีการใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ทางสังคม ดังนั้นการผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนจะสามารถช่วยลดภาระของประชาชนได้”

นายกอบกฤต กล่าวเสริมว่า การกระจายการบริหารงานจากศูนย์กลางมาอยู่ที่พื้นที่ จะทำให้มีการบริหารงาน
ต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้นการที่การจัดการไฟฟ้าและประปาจะมาอยู่ในมือของกทม. จะทำให้การบริหารงานและการจัดการไฟฟ้าและประปาตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่มากขึ้น ไฟฟ้าพลังงานทดแทนสามารถดึงมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ การเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำประปาให้ดื่มได้และครอบคลุมทุกพื้นที่

นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายนี้ไว้ว่า มหานครกรุงเทพ ต้องการอำนาจในการพัฒนาตนเองให้ครอบคลุมในทุกด้าน แต่ในปัจจุบันการที่กรุงเทพมหานครจะปรับตัวให้เป็นเมืองสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังติดปัญหาอยู่หลายส่วน หนึ่งในนั้น คือ กทม.ไม่มีอำนาจในการเข้าไปดูแลสาธารณูปโภคพื้นฐานของกทม. อย่างเช่น การไฟฟ้า และ การประปา

ดังนั้นพรรครวมไทยยูไนเต็ดเห็นว่า การเร่งกระบวนการตามพระราชบัญญัติ การกระจายอำนาจท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ในการโอนอํานาจและหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะระหว่างรัฐกับ กทม. เพื่อให้เกิดความมั่นคงและความสะดวกในการ บริหารงาน นอกจากนั้นในปี 2562 ที่ ผ่านมาพบว่ากำไรจากการใช้ไฟคนเมืองอยู่ที่ 8,400 ล้านบาท และ 7,000 ล้านบาทจากการใช้น้ำ ซึ่ง กำไรส่วนดังกล่าว คนเมืองแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเงินดังกล่าวเลย”

การกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ กทม. ในการจัดการบริหารไฟฟ้า และ ประปาเองได้ จะเป็นก้าวสำคัญในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอื่น ๆ เพื่อให้มีการจัดการบริการให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น