“สามารถ” เย้ย “รังสิมันต์ โรม” เตรียมเงิบ หลังโฆษกศาลแถลงซัดปั้นน้ำเป็นตัว แสร้งความชอบธรรมให้ตัวเอง
วันนี้ (26 มี.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีที่ โฆษกศาลยุติธรรม ได้ออกมาแถลงข่าวย้อนศร นายรังสิมันต์ โรม ว่า ตนเห็นข่าวที่โฆษกศาลยุติธรรม ได้ชี้แจงการออกหมายจับ นาย รังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตนได้ฟังแล้วไม่แปลกใจเลย เพราะนายรังสิมันต์ ออกมาแถลงข่าวฟ้องพ่อแม่พี่น้องประชาชน เหมือนหนังคนละม้วนคนละเรื่อง
“ผมขอสรุปให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้เข้าใจข้อมูลจริง ว่า คดีที่ นายรังสิมันต์ ถูกดำเนินคดี คือ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งผู้เสียหายคือมูลนิธิป่ารอยต่อห้าจังหวัด มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ว่าถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษรกระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท นั้นคือความผิดที่นายรังสิมันต์ ได้ถูกกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ตั้งแต่ปี 2564 ช่วงเดือนตุลาคม 2564 พนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกไปยัง นายรังสิมันต์ จำนวน 2 ครั้ง คือ วันที่ 15 ตุลาคม และ วันที่ 26 ตุลาคม นายรังสิมันต์ ก็อ้างสิทธิ์ติดประชุมไม่มาพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนไปขอศาลออกหมายจับ ศาลก็ยกคำร้อง แทนที่ นายรังสิมันต์ จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน แต่ก็ไม่เข้าพบ บ่ายเบี่ยงประวิงคดี จนมาถึงเดือนมีนาคม 2565 ถือว่าลากคดีข้ามปีมาเลยทีเดียว นายรังสิมันต์ ก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีก จนเป็นเหตุให้ศาลออกหมายจับ คดีนี้ใช้เวลาการทำสำนวนข้ามปี เพราะนายรังสิมันต์ โรม ไม่ให้ความสำคัญหรือจะยื้อคดีก็ไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่นาย รังสิมันต์ พยายามเล่นใหญ่ว่าถูกรังแก เพราะเปิดโปง ผมว่าน่าจะไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นการเปิดโปงจริง นาย รังสิมันต์ จะได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย ว่าด้วยประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 329 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต
(1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม
(2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่
(3) ติชม ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
(4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม
ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
นายสามารถ กล่าวว่า ถ้าการที่นายรังสิมันต์ อ้างว่าพูดเพื่อประโยชน์ของของพ่อแม่พี่น้องประชาชน นั่นน่าจะไม่จริง เพราะถ้าจริงผมว่า นาย รังสิมันต์ เป็นถึงกรรมาธิการการกฎหมายฯ จะไม่รู้หรือไม่ แต่สิ่งที่ นายรังสิมันต์ ออกมาน่าจะเป็นการใส่ร้าย ป้ายสี ตามที่ ผู้เสียหาย เค้าแจ้งความหรือไม่??? เพราะโดยปกติผู้บริสุทธิ์เค้าอยากให้คดีตัดสินไว ไม่น่าจะลากคดีมาเป็นปีๆแบบนี้ ตนจึงอยากเตือนนายรังสิมันต์ โรม ขอให้ทำการเมืองเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน หาใช่ทำเพื่อรับใช้คนใดคนนึง แล้วขอให้หัดเริ่มพูดความจริงกับประชาชนบ้าง ไม่ใช่พอโดนคดีความ ก็ออกมาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ หรือ สุภาษิตโบราณก็เรียกว่า พวกชอบปั้นน้ำเป็นตัว วันนี้โฆษกศาล ออกมาแถลง ตนว่างานนี้มีหงายเงิบ
“ผมเตือนหลายครั้งแล้ว อย่าอภิปรายข้อมูลเท็จในสภา เพราะข้อบังคับของสภาก็ห้ามไว้ แล้ว มูลนิธิป่ารอยต่อ นั้นเป็นบุคคลภายนอก การจะอภิปรายใส่ร้าย ป้ายสี ถ้าผู้เสียหายเค้ารู้สึกเสียหายเค้าก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ดังนั้น ถ้านายรังสิมันต์ มั่นใจว่าไม่ได้ ปั้นน้ำเป็นตัว ก็ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะกฏหมายคุ้มครองคนดีอยู่แล้ว แต่ถ้าโกหกใส่ร้าย ปั้นน้ำเป็นตัว ปลายทางของเรื่องนี้คงไม่ต้องทำนาย ท้ายสุดนี้ เป็น ส.ส. ของประชาชน ต้องทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่พอโดนคดี ก็ปั้นน้ำเป็นตัวมาบอกชาวบ้าน แบบนี้มันไม่ดีนะ รังสิมันต์ โรม” นายสามารถ กล่าว