รมต.อนุชา เชื่อมั่นการรวบรวมข้อมูลและผลงานวิจัยรอบด้านผ่านกระบวนการดิจิทัล มีส่วนช่วยกำหนดทิศทางประเทศให้รอดพ้นวิกฤตทุกด้าน สั่งการ DGA เร่งขับเคลื่อน สร้างสังคมดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน
วันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมเบญจสิริ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมโนโวเทล สุขุมวิท 20 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาครัฐ (DGTI-Con 2022) โดยมี นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ และผู้บริหารหน่วยงานภาคเอกชน เข้าร่วมผ่านทางระบบออนไลน์
งานประชุมวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นโดยสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA เพื่อเป็นเวทีสากลในการสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัย ผลงานวิชาการให้เป็นที่รู้จัก สามารถนําไปต่อยอดให้เกิดการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความรู้ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัล ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รวมทั้งเป็นเวทีสําหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลภาครัฐ ระหว่างนักวิจัย หรือนักวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ได้มีโอกาสนําเสนอผลงานวิจัยและบทความทางวิชาการด้านต่างๆ อาทิ เทคโนโลยีเพื่อสาธารณประโยชน์ (Technology for Public Sector), การเกษตรและความยั่งยืน (Agricultural and Sustainability) การบริการและสวัสดิการสังคม (Services and Welfare) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium- sized Enterprises SME) และการศึกษายุคดิจิทัล (Smart Education) โดยมีงานวิจัยที่ส่งเข้าร่วมทั้งหมด จํานวน 63 ผลงานจากนานาประเทศ อาทิ ประเทศไทย บราซิล ญี่ปุ่น อินเดีย เป็นต้น
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานวิชาการทั้ง 5 สาขาที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยอย่างแท้จริง การสร้างรัฐบาลดิจิทัลจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และช่วยออกแบบประเทศว่าจะเป็นทิศทางใดในอนาคต จากการประมวลผลและรวบรวมข้อมูลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น การคิดและวางแผนตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ประกอบกับการศึกษาค้นคว้างานวิจัยต่าง ๆ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นวิกฤตต่างๆ ของประเทศชาติ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น และเตรียมพร้อมสู่การเป็นสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งจากการวิจัยและงานวิชาการครั้งนี้ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชน โดยเฉพาะงานวิจัยทางด้านการเกษตร ที่เป็นอาชีพหลักสำคัญที่สร้างเม็ดเงินให้ประชาชนในประเทศ
สำหรับผลงานที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและต่างประเทศ ที่มานำเสนอในการประชุมนานาชาติครั้งนี้ จะได้นำไปเผยแพร่ลงในฐานข้อมูลนานาชาติของ IEEE รวมทั้งผลงานที่ผ่านการคัดเลือกบางส่วนจะได้รับโอกาสในการเผยแพร่และตีพิมพ์ใน Journal of Intelligent Informatics and Smart Technology อีกด้วย
