“บิ๊กตู่” เปิดทำเนียบฯ นัดสำคัญ ส.ส.- ส.ว.!!

เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่าเป็นช็อตต่อเนื่องมาจากการ “ดินเนอร์” ระหว่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคขนาดใหญ่ มาจนถึงพรรคขนาดเล็ก ในช่วงกลางๆ เดือนที่ผ่านมา การนัดรับประทานอาหารค่ำดังกล่าว ในทางการเมืองย่อมมองออกว่า เป็นการ “กระชับความสัมพันธ์” ระหว่างกัน หลังจากร่วมงานกันในฐานะรัฐบาลผสมมานานกว่าสามปี แต่ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ก็ต้องบอกว่า เป็นการ “ถามเรียงตัว” เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ายังให้การสนับสนุนแบบเต็มร้อยหรือไม่ รวมไปถึงต้องการ “หยั่งท่าที” บางพรรค บางคน ว่ายัง “แทงกั๊ก” หรือยังมี “ลีลา” หวังต่อรองเรื่อง “กล้วย” อีกมากน้อยเท่าไหร่

อย่างไรก็ดี การตั้งวงดินเนอร์ดังกล่าวนั้น แม้จะโฟกัสไปที่พรรคร่วมรัฐบาลหลักๆ จำนวน 3-4 พรรค และเป็นระดับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เป็นหลัก ซึ่งบรรยากาศโดยรวมถือว่าเป็นไปด้วยดี มีความชื่นมื่น ทำให้เกิดความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน

แต่ล่าสุด ในระหว่างการประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นการเคลื่อนไหว และท่าทีที่น่าสนใจบางอย่างออกมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ประกาศนัดหมายบรรดา ส.ส.และ ส.ว. มาร่วมงานปีใหม่ ที่จัดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้บรรยากาศของวัน “ปีใหม่ไทย” หรือ “วันสงกรานต์” นั่นเอง

แน่นอนว่า นี่คือ นัยทางการเมืองที่น่าติดตามอย่างยิ่ง เพราะหากพิจารณาจากช่วงวันเวลาดังกล่าวก็ต้องเป็นช่วงเดือน เม.ย. ก่อนการเปิดสภาสมัยสามัญ ในเดือน พ.ค.ไม่นานนัก และยังเป็นการใช้โอกาสวันเทศกาลสงกรานต์ มีการ “รดน้ำดำหัว” ตามประเพณีไทยๆ

แม้ว่าตามรายงานยังไม่ได้ระบุชัดว่า ส.ส.ที่เชิญมา จะรวมถึงจากพรรคฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ แต่ก็ต้องเชื่อว่าน่าจะโฟกัสไปที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล นั่นแหละ รวมไปถึง ส.ว.ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

มีรายงานว่า ในตอนท้ายการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญคณะรัฐมนตรีมาร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในเทศสงกรานต์ ในวันที่ 12 เม.ย. ที่ทำเนียบฯ ซึ่งจะมีการรดน้ำดำหัวด้วย พร้อมขอให้หัวหน้าพรรคการเมืองเชิญ ส.ส.และ ส.ว. มาร่วมงานด้วย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงานสงกรานต์ของทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 12 เม.ย. ที่จะเชิญ ส.ส.มาเข้าร่วมว่า ส.ส.หลายคนมีความต้องการอยู่แล้ว เพราะหลายคนคงรู้สึกดีใจที่ได้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี มีอะไรจะได้เอ่ยได้บอกได้ว่าในพื้นที่ต้องการอะไร

เมื่อถามถึงงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไป จะจัดขึ้นเมื่อใด นายสุชาติ กล่าวว่า งานเลี้ยงหรืองานกินข้าว ปัญหาของประเทศของประชาชนมันหนักมากกว่า การกินข้าวกันหลายๆ คน มันปิดไม่ได้ เป็นไปได้ที่จะคุยกันบ้างอะไรกันบ้าง ไม่ได้กินเพื่อล็อบบี้อะไรกัน มันไม่ใช่ การกินข้าว อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาหลายพรรคไม่ได้เจอกันก็มาคุยกันบ้าง สิ่งสำคัญคือ ต้องทำเพื่อประชาชน การที่จะเลือกตั้งใครจะเป็นรัฐบาลหรือนายกฯ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องตัดสินใจว่าใครชัดเจน ใครคือของจริง ใครจับต้องได้ ใครจริงใจ และใครที่รักประเทศชาติที่สุด

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้ดูแลพรรคเล็กเต็มตัวแล้วหรือยัง นายสุชาติ กล่าวว่า โชคดีที่อายุน้อยสุด และรู้จักพรรคเล็ก ทุกคนเป็นพี่ทั้งนั้น ใครโทร.มาหาก็รับทุกคน เวลาพรรคร่วมโทร.มาก็รับสายทุกคน จึงเป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่เป็นตัวเชื่อมข้อมูลต่างๆ คิดว่าเราสามารถทำกันได้

การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถือว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และหากมองว่านี่คือท่าทีใหม่ของเขา นั่นคือ “ความใกล้ชิด” กับบรรดา ส.ส.และ ส.ว. มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสังเกตได้ และก่อนหน้านี้ ระหว่างการเลี้ยง “ดินเนอร์” กับพรรคเล็กเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เขาก็แจ้งให้กับบรรดาพรรคเล็กเหล่านั้นว่า “มีปัญหาอะไรให้แจ้งมาได้โดยตรง” จากเดิมที่เคยมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประสานงานในฐานะ “ผู้จัดการรัฐบาล”

แต่ในระยะหลัง เมื่อเกิดความไม่มั่นคงเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้มีการ “ปรับท่าที” ใหม่ เป็นลักษณะ “ดีลโดยตรง” หรือแม้แต่การจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำดังกล่าว รวมไปถึงการนัดหมายลงไปถึง ส.ส.และ ส.ว. ที่เปิดทำเนียบรัฐบาลจัดงานในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้

หากจะบอกว่า นี่คือ การ “เปิดเกมรุก” อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากเร่งเร้าให้ ครม. เร่งแสดงผลงานในช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีกประมาณหนึ่งปี เน้นย้ำในเรื่องการสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ให้ทั่วถึงมากกว่าเดิม

ดังนั้น หากบอกว่า การนัดหมาย ส.ส.และ ส.ว. มาร่วมงานรดน้ำดำหัว ที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงวันสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ ถือว่าเป็นการนัดหมายสำคัญในทางการเมืองอีกขั้นหนึ่ง อีกทางหนึ่งเหมือนกับการกระชับความสัมพันธ์ สร้างความมั่นใจก่อนรับศึกหนักอีกไม่กี่วันข้างหน้า และที่ต้องจับตา ก็คือ งานนี้เป็นการ “ดีลเอง” ไม่ผ่านใครเหมือนกับก่อนหน้านี้ !!