โฆษก กมธ.ร่าง กม.ลูก เผย ไร้ข้อสรุปแก้คุณสมบัติ “ผู้จัดตั้งพรรค” เสียงแตกปมเปิดทางผู้ต้องโทษ ด้าน “ส.ว.” เล็งไม่ร่วมลงมติ ปม ปลดล็อกให้ตัวเอง หวั่น ประโยชน์ทับซ้อน
วันนี้ (17 มี.ค.) นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เปิดเผยผลการประชุม กมธ. ซึ่งพิจารณาประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง ในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีผู้เสนอให้แก้ไข ผ่อนปรนคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม อย่างไรก็ดี กมธ. ไม่มีข้อสรุปใดๆ และให้คณะทำงานรับความเห็นและข้อเสนอของ กมธ.ที่อภิปรายต่อที่ประชุมไปพิจารณาและยกร่างเนื้อหาเสนอให้ที่ประชุม กมธ.ในสัปดาห์หน้า โดยจะมีการอภิปรายของ กมธ. ที่เหลือ จากนั้นจะลงมติ
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นที่ กมธ.เสนอ เช่น การเปิดกว้างให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรค โดยยกเว้นลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส. บางประเด็น เช่น บุคคลที่เคยต้องโทษคดียาเสพติด, กฎหมายฟอกเงิน, การทุจริต ซึ่งกมธ.มีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายที่เห็นด้วย มองว่าไม่ควรตัดสิทธิการมีส่วนร่วมทางการเมือง ในการร่วมจัดตั้งซึ่งเป็นการลงโทษการเมืองแบบตลอดชีวิต ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มองว่าหากเปิดช่องจะทำให้เกิดคำถามว่าอุดมการณ์ของพรรคคือสนับสนุนคนโกง และอาจมีปัญหาขึ้นได้
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีการเปิดช่องให้ ส.ว. ร่วมเป็นผู้จัดตั้งพรรคได้นั้น ส.ว.ที่ร่วมเป็น กมธ. มีความเห็นว่า หากแก้ไขประเด็นดังกล่าวจะไม่ร่วมลงมติ เพราะกังวลว่าเป็นการแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนเองและอาจเป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำเพื่อตนเองได้
