สสส. - ม.รังสิต - อบจ.ปทุมธานี ผุด “หลักหกโมเดล” ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต-เสริมสร้างสุขภาพ พร้อมเตรียมจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาหลักหก” เป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือ-สร้างอาชีพและรายได้-จัดการสิ่งแวดล้อมเอื้อสุขภาวะ ตั้งเป้าช่วยเหลือชาวปทุมฯ ในปี 65
วันนี้(15 มี.ค.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือ 3 ประสาน มุ่งสร้างเสริมสุขภาพ สร้างสุขภาวะ และคุณภาพชีวิตที่ดีในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 แต่ละระลอก สร้างผลกระทบโดยตรงกับคนไทยอย่างรุนแรง ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้คุณภาพชีวิตที่ดีลดลง สสส. ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะ ในปี 2563 เกิดเป็นโครงการย่อยทั่วประเทศกว่า 100 โครงการ ภายใต้หน่วยการจัดการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง 5 หน่วย ได้แก่ กลุ่มเกษตรในเมือง กลุ่มชายแดนใต้ กลุ่มแรงงานในระบบ กลุ่มแรงงานนอกระบบ และกลุ่มสร้างอาชีพและรายได้ (มหาวิทยาลัยรังสิต) ที่ดำเนินการถึง 33 โครงการ ที่เป็นโครงการนำร่องที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนที่สามารถนำไปต่อยอดในแต่ละชุมชนได้ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีทักษะอาชีพที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ กว่า 1,000 คน
ดร.สุปรีดา กล่าวว่า ในปี 2565 นี้ สสส. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต และ อบจ.ปทุมธานี พัฒนา “แผนงานร่วมทุนสนับสนุนการพัฒนาสุขภาวะจังหวัดปทุมธานี” โดย สสส. ร่วมทุน ร้อยละ 70 มหาวิทยาลัยรังสิตร่วมทุน ร้อยละ 30 พร้อมจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาหลักหก” เป็นหน่วยงานดูแลด้านงบประมาณและการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้ สสส. มุ่งฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้ครอบคลุมทุกคนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตโดยมีแนวทางพึ่งพาตัวเองสามารถปรับตัวดำรงชีวิตในสภาวะวิกฤต ที่สำคัญคือสร้างการขยายความร่วมมือและผนึกกำลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อเพิ่มทรัพยากรทั้งทุนด้านงบประมาณ ทุนทางสังคม ทุนบุคลากรและองค์ความรู้ ซึ่งจะช่วยกระจายและการเข้าถึงการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในวงกว้างมากขึ้น
ผศ.ดร.นเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนในจังหวัดปทุมธานี ในปี 2564 ทั้งด้านเศรษฐกิจ มีผู้ว่างงาน กว่า 17,000 คน ขาดรายได้ มีหนี้สิน ด้านสุขภาพจากโรคเรื้อรัง พบมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง 8,338 คน โรคไต 12,069 คน โรคมะเร็ง 4,658 คน โรคเบาหวาน 18,475 คน โรคอ้วน 34,448 คน และด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องน้ำเน่าเสีย การกำจัดขยะ และภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นอย่างอุทกภัย และสภาพสังคมที่ไม่ปลอดภัย ความร่วมมือกับ สสส. พัฒนาแผนงานร่วมทุนสนับสนุนการพัฒนาสุขภาวะจังหวัดปทุมธานี ได้แบ่งการบูรณาการกับทุกภาคส่วนออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสที่ 1 พัฒนาพื้นที่ชุมชนหลักหก ร้อยละ 80 และชุมชนใกล้เคียง ร้อยละ 20 เฟสที่ 2 พัฒนาพื้นที่ชุมชนหลักหก ร้อยละ 50 และชุมชนใกล้เคียง ร้อยละ 50 และเฟสที่ 3 จังหวัดปทุมธานีทั้งหมดที่มีผู้อาศัยมากถึง 1,176,412 คน เพื่อเร่งยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ที่เกิดขึ้นอย่างตรงจุด
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนในการสร้างเสริมสุขภาวะ สามารถสอบถามและติดตามได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “สร้างสรรค์โอกาส” www.facebook.com/Section6TH