โฆษกรัฐบาลย้อนฝ่ายค้าน ไล่นายกฯ ยุบสภา-ลาออก ต้องย้อนไปดูอดีตตัวเองด้วย ทิ้งอะไรไว้ให้แก้ปัญหาบ้าง ชี้ การยกกลไกรัฐสภามาอ้างนั้น ที่ผ่านมา เคารพการทำหน้าที่ในสภาแค่ไหน ติงระวังศึกซักฟอกรอบนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของฝ่ายค้านบางคน
วันนี้ (14 มี.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านระบุถึงการห้ามนายกฯ ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ควรยุบสภา หรือลาออก ว่า เชื่อว่าประชาชนคงเบื่อหน่ายเรื่องนี้เต็มที เพราะฝ่ายค้านพูดเรื่องนี้ซ้ำๆ วนเวียนมาแล้วหลายต่อหลายรอบ เรียกร้องให้ยุบสภา หรือลาออกมาตลอด 7 ปี เพียงเพราะรับไม่ได้ที่ประชาชนไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เข้ามาบริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งๆ ที่ปัญหาเหล่านี้ เช่น การทุจริตคอร์รัปชันจนมีอดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกแล้วถึง 2 คน มาจากสมัยรัฐบาลของพรรคตัวเอง แต่ก็ยังไม่สำนึก ยังอยากจะกลับมามีอำนาจอีก วาทกรรมระบบเผด็จการ รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ฝ่ายค้านพูดแทบจะทุกวัน ทั้งๆ ที่สมัยรัฐบาลตัวเองมีความพยายามยิ่งกว่าการสืบทอดอำนาจ ทำพรรคการเมืองเหมือนกับเป็นบริษัท ส่งมอบตำแหน่งให้กับคนในครอบครัวราวกับสมบัติผลัดกันชม ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าอายยิ่งกว่า แต่กลับไม่เคยย้อนดูตัวเองบ้าง
นายธนกร กล่าวอีกว่า นอกจากฝ่ายค้านจะรับไม่ได้ที่พ่ายแพ้ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ยังพาลไปถึงองค์กรอิสระต่างๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าใครที่พูดเข้าข้างฝ่ายค้านก็บอกว่าเขาดี แต่ใครที่เห็นตรงข้ามก็บอกเป็นพวกเดียวกับรัฐบาล นอกจากนี้ การที่ฝ่ายค้านพยายามอ้างกลไกของรัฐสภานั้น ต้องย้อนถามว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านเคารพกลไกของรัฐสภาจริงหรือไม่ ใช่ฝ่ายค้านหรือไม่ที่ออกไปสนับสนุนการเมืองบนท้องถนน และใช่ฝ่ายค้านหรือไม่ ที่เล่นเกมการเมืองในสภาจนสภาล่ม โดยไม่สนใจว่า เรื่องที่สภากำลังพิจารณานั้นมีความสำคัญกับประชาชนมากน้อยเพียงใด
“การเลือกตั้งสมัยหน้า อาจจะหมดเวลาของฝ่ายค้านเองแล้วก็เป็นได้ เพราะประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายเต็มทีแล้ว หน้าที่ตัวเองไม่คิดทำ เฝ้าแต่หาหนทางให้ตัวเองได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่จะเกิดขึ้นนั้น สุดท้ายแล้วอาจจะกลายเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนด้วยซ้ำ เพราะประชาชนเห็นชัดเจนแล้วว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ทำอะไรให้ประชาชนบ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากบอกว่าท่านนายกฯ ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำในขณะนี้ บุคลากรของฝ่ายค้านเองก็คงไม่เหมาะกับยุคสมัยนี้ด้วยเช่นกัน ที่ต้องการวุฒิภาวะและความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา ไม่ใช่รอคำสั่งถึงจะเริ่มดำเนินการ” นายธนกร กล่าว