“สุพัฒนพงษ์” รับไทยเข้าสู่วิกฤตพลังงาน เป็นหน้าที่ ปชช.ร่วมใจประหยัด พรุ่งนี้แถลงแผนรับมือ

รมว.พลังงาน เผย ไทยเข้าสู่วิกฤตพลังงาน จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน แจ้งกันตรงๆ เป็นหน้าที่ประชาชนร่วมใจประหยัดพลังงาน พรุ่งนี้เตรียมแถลงแผนรับมือ เริ่มรณรงค์พลังงานหารสอง

วันนี้ (8 มี.ค.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง ว่า อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดว่าจะสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ได้ที่ 30 บาทต่อลิตร ได้หรือไม่ โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการหารือกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.แต่เบื้องต้นคิดว่าจะทำเท่าที่ทำได้ ซึ่งได้มีการประเมินราคาน้ำมันทุกวัน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีห่วงหลายเรื่อง สิ่งแรกต้องทำให้ประชาชนเข้าใจว่า สถานการณ์ตอนนี้ราคาน้ำมันผันผวนมาก ภายในสัปดาห์เดียวขึ้นมาถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ รณรงค์ให้ประชาชนประหยัดพลังงาน นายกรัฐมนตรีให้แนวทางและเป็นวาระของ ครม.ที่ทุกหน่วยงานจะต้องกลับไปหาแนวทางร่วมกันประหยัดพลังงานและประชาชนก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่นำเข้าพลังงานอยู่ ส่วนมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนทำอย่างไรไม่ให้กระทบอัตราเงินเฟ้อ จะต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

ขณะนี้รัฐบาลจะใช้กองทุนน้ำมันเป็นตัวหลัก เพราะได้ลดภาษีสรรพสามิตแล้ว โดยต้องดูว่าจะอุดหนุนกองทุนน้ำมันด้วยงบประมาณที่ได้มายาวนานขนาดไหน แต่ปรากฏว่า ใช้ได้ไม่ยาว โดยเฉพาะราคาน้ำมันโลกที่สูงขนาดนี้ อาจจำเป็นต้องใช้วิธีพิจารณาว่าจะขยายวงเงินหรือพิจารณาใช้วิธีอื่น เช่น การขยายเพดานกู้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ อยู่ในขั้นตอนการขอรับเงินกู้อยู่แล้ว น่าจะกู้ได้ภายในเดือนเมษายน 2565 เพราะขณะนี้เราใช้เงินจากสภาพคล่องที่มีอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรากู้เงินไม่ได้

เมื่อถามว่า เราจะใช้วิธีโยกเงินกู้ที่ยังไม่ถึงกำหนดมาใช้ก่อนหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ทำนองนั้น เรียกว่าลูกหนี้การค้า ที่เรามีเครดิต เราไม่ได้ชำระเขาทันที ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่จะใช้เงินจำนวนนี้เป็นสภาพคล่องให้กับกองทุน เพราะหากรีบกู้มาก็จะเสียดอกเบี้ยเร็ว

เมื่อถามว่า หากราคาน้ำมันทะลุกรอบ จะมีการพิจารณาภาษีสรรพาสามิตเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ต้องหารือกับกระทรวงการคลัง โดยยืนยันว่า เรามีมาตรการแต่ขอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันใกล้ๆ ตอนนี้ราคาขึ้นต่อเนื่องแต่สิ่งแรกที่เราทำได้ คือ ช่วยกันประหยัดพลังงาน ซึ่งตอนนี้ ก๊าซ แอลพีจี ก็ขึ้นราคาเช่นกัน จากนี้ต้องไปดูว่าวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ตรึงราคาไว้ที่ 318 บาท ต่อถัง 15 กิโล จะเป็นอย่างไรต่อไป และอยากให้ดูสถานการณ์น้ำมันประเทศเพื่อนบ้านประกอบด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ราคาต่างกันมาก จนมีการลักลอบเอาน้ำมันจากไทยไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องดูราคาต้นทุน ดูความสามารถไม่ใช่แค่ต้นทุนอย่างเดียว แต่ราคาต้องแข่งขันกันได้ ประเทศต้องรักษาความสามารถการแข่งขันในประเทศได้ ราคาเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนหนึ่งของการผลิตต้องดูเทียบเคียงกันไป

เมื่อถามว่า ที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ จะมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้มาตรการส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความคล่องตัวในการใช้เชื้อเพลิงในประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพง โดยเฉพาะราคาก๊าชธรรมชาติ พยายามใช้พลังงานในประเทศให้มากที่สุด โดยปัญหาหนักตอนนี้ คือ ปัญหาราคาน้ำมัน ปัจจัยสำคัญคือการประหยัด

นายสุพัฒนพงษ์ ฝากบอกประชาชนว่า ขณะนี้เข้าสู่สถานการณ์วิกฤตพอสมควรแล้วจากวิกฤตยูเครน-รัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานเป็นทอดๆ ทั้งในยุโรป จนถึงเอเชียและทั่วโลก อีกทั้งการผลิตของโอเปคการยืนยันที่จะผลิตเพียงแค่ 4 แสนบาร์เรล ซึ่งยังไม่ตัดสินใจผลิตเพิ่มมากกว่านี้จึงทำให้ราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อมีข่าวว่ารัสเซียจะตัดสายการผลิตการส่งพลังงานไปยังยุโรป ซึ่งยุโรปใช้พลังงานจากรัสเซียถึง 1 ใน 3 ก็จะทำให้ราคาน้ำมันขึ้นสูงตลอด ทั้งนี้ ต้องแจ้งกันตรงๆ ว่า เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ถือว่าเป็นวาระที่ต้องเริ่มประหยัดพลังงาน หลังจากนี้ กระทรวงพลังงานจะมีข้อมูลประหยัดพลังงานโดยทำได้ไม่ยาก โดยเฉพาะ 60 เปอร์เซ็นต์หลักใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทำได้ไม่ยาก พรุ่งนี้จะมีการแถลงชี้แจงที่เราจะเริ่มรณรงค์ พลังงานหาร 2 ให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะมากได้