ครม.อนุมัติขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้เงินกู้ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษา โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ออกไปจนถึงปี 2572 โดยให้รัฐบาลรับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
วันนี้ (8 มี.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้เงินกู้ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษา โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 ออกไปจนถึงปี 2572
โดย ครม.เห็นชอบให้รัฐบาลรับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของเงินกู้ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาต่อไป ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 จนถึงปีงบประมาณ 2572 ทั้งนี้ หากประมาณการรายได้แตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้มาก ทั้งกรณีสูงหรือต่ำกว่าประมาณการ กระทรวงคมนาคมจะพิจารณานำเสนอการรับภาระหนี้ของรัฐบาลให้ ครม.พิจารณาอีกครั้งตามความเหมาะสม โดย ครม.ยังมีมติให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นรายปี จนถึงปีงบประมาณ 2572
ทั้งนี้ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2538 เห็นชอบให้รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ในระยะเวลา 10 ปีแรก ซึ่งที่ผ่านมา รฟม.ได้มีการขออนุมัติขยายระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวออกไปแล้ว 4 ครั้ง โดยในครั้งนี้ รฟม.ขออนุมัติขยายระยะเวลาให้รัฐบาลรับภาระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ต่อตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 จนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 จากการประมาณการรายได้ที่ รฟม.ได้รับจากสัญญาสัมปทานเดินรถจากบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และรายได้ที่ รฟม.ดำเนินการเองในส่วนของการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ รฟม.และการชำระคืนภาระหนี้ที่ รฟม.ได้กู้มาดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งมีการทยอยจ่ายคืนชำระหนี้เป็นรายปี และ รฟม.ยังต้องนำรายได้ของโครงการสายเฉลิมรัชมงคล ไปใช้จ่ายในโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่ รฟม.รับผิดชอบด้วย
สำหรับภาระหนี้คงค้างของ รฟม. ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 พบว่า มีหนี้คงค้างรวม 177,801 ล้านบาท เป็นหนี้เงินกู้จากต่างประเทศ 30,357 ล้านบาท และเงินกู้ภายในประเทศ 147,443 ล้านบาท โดยโครงการสายเฉลิมรัชมงคล มีภาระหนี้คงค้างเงินกู้ภายในประเทศ จำนวน 1,550 ล้านบาท และเงินกู้ต่างประเทศ (JICA) จำนวน 29,627 ล้านบาท รวม 31,177 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ประมาณการภาระหนี้ของโครงการสายเฉลิมรัชมงคล ตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ พบว่า ตั้งแต่ปี 2564-2572 จะต้องชำระเงินต้นจำนวน 15,802 ล้านบาท และดอกเบี้ย 8,074 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 23,876 ล้านบาท และช่วงปี 2573-2583 มีภาระหนี้ชำระเงินต้นจำนวน 15,967 ล้านบาท และดอกเบี้ยจำนวน 3,232 ล้านบาท รวม 19,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการรายได้ และรายจ่ายรวมของโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในช่วงสัญญาสัมปทานโครงการฯสายเฉลิมรัชมงคล ปี 2564-2572 พบว่า จะมีรายได้รวม 47,391 ล้านบาท และรายจ่าย 119,481 ล้านบาท มีรายจ่ายเกินรายได้จำนวน 72,089 ล้านบาท