หัวหน้าพรรคกล้า วิเคราะห์สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ชี้ แม้กระทบตลาดคริปโต แต่อนาคตจะโตขึ้น แนะจับตาผลกระทบต่อธุรกิจไทย-ผู้ประกอบการไทยที่รอการชำระเงินจากคู่ค้ารัสเซีย ต้องรีบสะสางโดยเร็ว
วันนี้ (28 ก.พ.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ต่อบทบาทของคริปโต และผลกระทบต่อธุรกิจไทย ว่า ระยะหลายวันที่ผ่านมาราคาเหรียญคริปโต #Crypto ทุกชนิดปรับลดลงหมด ทิศทางและพฤติกรรมไม่ต่างกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จึงเกิดคำถามว่า นอกเหตุผลทางอารมณ์แล้วทำไมต้องเป็นเช่นนั้น คริปโตไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย ซึ่งพอมานั่งคิดดู รัสเซียโดนโดดเดี่ยว และถูกตัดออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อความระหว่างธนาคารเพื่อยืนยันการโอนเงินข้ามประเทศ มีธนาคารของรัสเซียอยู่ในระบบนี้ประมาณ 300 แห่ง ทำให้โอนเงินผ่านระบบธนาคารยากขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลอย่างแรงกับเศรษฐกิจของรัสเซีย (ผลต่อ GDP อย่างน้อย 5%) แต่ก็จะส่งผลกับเศรษฐกิจยุโรปและทั่วโลกด้วย อย่างเช่น เรื่องก๊าซ ซึ่ง 30-40% ของก๊าซของยุโรปมาจากรัสเซีย จากนี้จะซื้อ/ขายกันหรือไม่อย่างไร และจะมีผลต่อราคาก๊าซและราคานํ้ามันที่ไทยต้องซื้ออย่างไรด้วย ส่วนผู้ประกอบการไทยที่รอการชำระเงินจากคู่ค้ารัสเซีย ต้องรีบสะสางโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ มองว่า นี่คือ จังหวะของระบบการเงินแบบ DeFi (ระบบการเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาคนกลาง เช่น สถาบันการเงิน) ที่จะมาทำหน้าที่แทน จริงๆ แล้วน่าจะส่งผลบวกต่อ Crypto อย่างเช่น Bitcoin ในเร็ววัน ขณะเดียวกัน ข่าวต่างประเทศก็ได้รายงานถึงการบริจาคเหรียญ Bitcoin ให้ชาวยูเครน ซึ่งนี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งว่าช่วงสงครามที่ระบบปกติเข้าถึงได้ยาก ระบบที่พึ่งพาเทคโนโลยีจะมาทดแทนทันที และ crypto exchange ของยูเครนรายงานว่าชาวยูเครนยอมเข้าซื้อ USD stable coin ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ส่วนหนึ่งเพราะทางรัฐบาลยูเครนได้มีคำสั่งจำกัดการถอน หรือโอนเงินในระบบธนาคารเพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ และเพื่อปกป้องระบบธนาคารในเวลาเดียวกัน ชาวรัสเซียอาจจะต้องขาย Bitcoin ในมือออกมาเพื่อแปลงเป็นเงินดอลลาร์บ้าง ส่วนนี้ก็อาจจะกดดันราคาไประยะหนึ่ง
“ผมเชื่อว่า พอพ้นอาการ ‘ตกใจ’ ช่วงแรก เราจะได้เห็นคริปโตมีบทบาทมากขึ้น” อดีต รมว.คลัง กล่าว