รัฐสภาเริ่มถก กม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส.- พรรคการเมือง ฝ่ายค้านชงแบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์เดียวกัน ส่วนฝ่าย รบ. เสนอ 2 ใบ ขณะที่ “ชวน” ป้องสภาไม่ได้เลวร้ายกว่าในอดีต
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.50 น. ได้มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 4 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จำนวน 6 ฉบับ โดยที่ประชุมเริ่มพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเลือกตั้ง ส.ส. เป็นลำดับแรก ประกอบด้วย ร่างของ นายอนุชา นาคาศัย รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอหลักการและเหตุผลในนามคณะรัฐมนตรี (ครม.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอในนามฝ่ายค้าน นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอในนามพรรคฝ่ายรัฐบาล และ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เสนอในนามพรรคก้าวไกล
นพ.ชลน่าน กล่าวตอนหนึ่งว่า แนวคิดที่จะใช้เบอร์ผู้สมัคร ส.ส.และเบอร์พรรค เป็นแบบคนละเบอร์นั้น จะทำให้เกิดการจูงใจให้อามิสสินจ้าง เจตนารมณ์ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่การจะกำหนดให้หมายเลขพรรคและผู้สมัครแตกต่างกันนั้นเท่ากับไปสร้างความสับสนให้กับประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียง อีกทั้งยังเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย อยากถามว่าการกำหนดให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่หมายเลขพรรคกับผู้สมัครไม่เหมือนกัน เจตจำนงคืออะไร
นายวิเชียร ชวลิต กล่าวในเรื่องเดียวกัน ว่า การกำหนดให้ผู้สมัคร และพรรคเป็นคนละหมายเลข เพราะเชื่อในวิจารณญาณของประชาชน เชื่อว่า ประชาชนมีความสามารถเลือกพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ที่ตัวเองชื่นชอบ การกล่าวอ้างว่า อาจทำให้ประชาชนสับสนนั้น หมายความว่า กำลังมองประชาชนไม่มีสามารถในการวินิจฉัย ซึ่งตนไม่เชื่อเช่นนั้น
ขณะที่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า พรรคเห็นด้วยกับวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของฝ่ายรัฐบาล นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล ขอนำเสนอให้ผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคเดียวกันต้องเบอร์เดียวกัน เพื่อความเรียบง่าย อยากถามว่า การเสนอแบบเบอร์เดียวกัน มีปัญหาอะไร ทำไมบางฝ่ายจึงอยากได้เป็นแบบคนละเบอร์ นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเปิดเผยผลคะแนนดิบรายหน่วยสู่สาธารณะ โดยไม่ต้องร้องขอ และให้มีการสังเกตการณ์เลือกตั้งได้ เพื่อความโปร่งใส และผู้จัดการเลือกตั้ง ต้องรับผิดชอบแก้ปัญหาบัตรเขย่ง แก้เรื่องคะแนนนอกราชอาณาจักร และมีความรับผิดชอบ ซึ่งพรรคเห็นว่า ข้อผิดพลาดเรื่องการขนส่งเหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้คะแนนของประชาชนตกหล่นได้ สุดท้าย สภาต้องเข้มแข็งด้วยการแก้ไขปัญหา ส.ส.ปัดเศษ โดยการกำหนดให้มีคะแนนขั้นต่ำ เนื่องจากสภาชุดปัจจุบันมี ส.ส.ปัดเศษที่รวมตัวกัน เพื่อต่อรองทางการเมือง อีกทั้งมีอำนาจในการต่อรองทำให้สภาล่มได้
จากนั้น นายชวน ได้ชี้แจงก่อนเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายว่า ตนขอปกป้องสภาในฐานะที่อยู่ในสภามาหลายสมัย เห็นเหตุการณ์มา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชุดปัจจุบัน ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าในสมัยก่อน ปัญหาเรื่ององค์ประชุมมีบ้าง เป็นธรรมดา แต่ดูจากผลงานแล้วก็ขอชื่นชมสมาชิกที่ให้ความร่วมมือ เราพูดได้ว่ากฎหมายรัฐบาลไม่ได้ค้างเลยแม้แต่ฉบับเดียว ซึ่งเราต้องช่วยกันประคับประคอง