โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” ทุ่มเทดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รอบด้าน ครอบคลุมทุกระดับอาการ ยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหลายประเทศในภูมิภาค นายกฯ กำชับบริหารจัดการระบบ HI-CI และศูนย์พักคอยทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ พร้อมเร่งสื่อสารความเข้าใจประชาชน
วันนี้ (24 ก.พ.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญดูแลผู้ป่วยโควิด-19 รอบด้าน และทุกระดับอาการ ทั้งผู้ป่วยที่มีอาการน้อย จนถึงอาการรุนแรง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีใช้จ่ายค่าบริการรักษาโควิด ปี 2563 จ่ายไป 3,841 ล้านบาท ปี 2564 จ่ายไป 97,747 ล้านบาท และปี 2565 จ่ายไปแล้ว 32,488 ล้านบาท รวม 134,076 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการของบเพิ่มอีก 51,065 ล้านบาท ขณะนี้โรคโควิด-19 ยังเป็นโรคฉุกเฉิน และยังสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ยังทุ่มเทการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรากฏในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ไทยอยู่ในระดับควบคุมและมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตต่ำกว่าหลายประเทศในภูมิภาค เช่น เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมา 652,938 ราย เสียชีวิต 348 ราย ญี่ปุ่น 572,555 ราย เสียชีวิต 1,462 ราย เวียดนาม 282,214 ราย เสียชีวิต 568 ราย มาเลเซีย 185,229 ราย เสียชีวิต 241 ราย อินเดีย 158,986 ราย เสียชีวิต 2,983 ราย ตามลำดับ ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรียังขอให้ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) มาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด
วันนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ รวม 23,557 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 23,329 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 228 ราย ผู้ป่วยสะสม 570,915 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 16,131 ราย หายป่วยสะสม 422,095 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 180,993 ราย เสียชีวิต 38 ราย ล่าสุด การให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 122,574,300 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,304,662 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,584,724 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 18,130,002 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,554,912 โดส
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังกำชับการจัดการระบบ HI-CI การรักษาตนเองที่บ้าน (Home Isolation : HI) และกักตัวที่ชุมชน (Community Isolation : CI) รวมทั้งศูนย์พักคอย ทั้งในกรุงเทพฯและในจังหวัดที่มีการระบาดสูง เพื่อรับรองผู้ป่วยที่จัดอยู่ในกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และมีประสิทธิภาพ พร้อมให้สำรองเตียงในโรงพยาบาลสำหรับรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดงที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสื่อสารทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับการใช้สิทธิและเข้าสู่ระบบการรักษาให้ชัดเจน
