รมว.แรงงาน ยันไม่ทะเลาะ “สนธยา” อ้างแค่เห็นต่าง เหตุอยู่คนละพรรค ส่งคนเคลียร์ใจแล้ว ลั่นหนุน “บิ๊กตู่” ไปด้วยกันได้ก็จบ เผยรอ “อิทธิพล” ตัดสินในพื้นที่ก่อน
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.49 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความขัดแย้งกับนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ว่า เรื่องนี้ไม่น่ามีอะไรแล้ว เพราะเป้าหมายการทำงาน คือ เสียสละเพื่อประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายเดียวกัน ก็อยู่ด้วยกันได้ แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน อยู่กันคนละพรรคก็ต้องแข่งกัน ถือเป็นเรื่องประชาธิปไตยที่สวยงามอยู่แล้ว และถือว่าเราจบแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีผู้ใหญ่เข้ามาเคลียร์ เพราะอาจจะเป็นการมองคนละมุม ก็อาจจากเกิดความน้อยใจของแต่ละคน ซึ่งตนเคยให้สัมภาษณ์มาหลายครั้งแล้วว่าถ้าอุดมการณ์ตรงกันก็ไปด้วยกันได้ แต่ตนก็เคยอยู่ด้วยกันมา ไม่ได้มาทะเลาะกันเหมือนที่หลายคนพูดไม่ถึงขณะนั้น เพราะตนกับนายสนธยาเปรียบเสมือนพี่น้องกันทำธุรกิจด้วยกันท่าบริหารไม่ตรงกันก็ต่างคนต่างออกมาไปคนละบริษัท ย้ำว่า พี่น้องก็คือพี่น้อง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ตนตามที่นายสนธยาพูดว่าบางคนก็บางคนก็รู้ที่ไป แต่ไม่รู้ที่มา เราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด ซึ่งการเมืองและนักการเมืองทุกคนจนไม่ได้มีใครจะอยู่ร่วมกันตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อเวลาเปลี่ยนแต่ละคนก็จะต้องเลือกในสิ่งที่ใช่สำหรับตนเอง และเมื่อตนได้รับโอกาสจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรค พปชร.ก็อยู่ในจุดของตัวเอง ไม่ขอตอบในเรื่องของคนอื่น
นายสุชาติ กล่าวว่า ความสัมพันธ์กับนายสนธยาในขณะนี้ถือเป็นคนบ้านเดียวกัน อยู่ด้วยกันมานาน รู้นิสัยกันดี เราไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนที่คนอื่นคิด และไม่ได้มีอะไรกับนายสนธยา เป็นแค่การสะท้อนมุมมอง ซึ่งการที่นายสนธยาออกมาพูดอาจจะเป็นเพราะคนข้างๆออกมาพูด จึงทำให้เข้าใจผิด สุดท้ายถ้าจะจับมือพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ถ้าไปด้วยกันก็จบ แต่ถ้าไม่ใช่เราก็ไม่สามารถจะไปกำหนดทิศทางของใครได้ ต้องเคารพความคิดของแต่ละคน
“ผมไม่ได้พูดคุยกับนายสนธยา เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พปชร. แต่ได้ฝากคนใกล้ชิดไปบอกนายสนธยาว่าผมไม่ได้มีอะไรกับท่าน แต่ได้พูดคุยคุยปรึกษาการวางตัวผู้สมัครในจังหวัดชลบุรี กับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ทุกวัน ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไร และที่ตนมีปัญหากับนายสนธยาไม่ใช่เพราะผม แต่พี่น้องเขาแข่งขันกันเองเรื่องการลงสมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ไม่เกี่ยวกับผม และผมทำเรื่องการเตรียมตัวส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้า เพื่อให้หัวหน้าพรรคสบายใจ และผมต้องสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าให้พรรค พปชร.อย่างเต็มที่ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีอะไรบานปลายและจบลงด้วยดี เพราะเราเป็นคนเคยอยู่ด้วยกันร่วมทุกข์ร่วมสุขเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันมาด้วยกันตั้งแต่ปี 2550 และมาเริ่มต้นพรรคพลังชลในปี 2554 ด้วยกัน” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า การเมืองไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์หรือตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องของอุดมการณ์ ที่เราอยู่ข้างนายกฯ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวนายกฯ บอกว่า เรื่องนี้ ถ้าคุยกันได้ก็ควรจะคุยกัน ความเห็นต่างมีได้ แต่แตกความสามัคคีไม่ได้ และตนย้ำกับนายกฯ ว่า ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ไม่ต้องหนักใจ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร บอกว่า พรรค พปชร.ต้องมีการเตรียมพร้อมของพรรค แต่ถ้าวันหนึ่งเขาย้ายมาอยู่พรรค พปชร.แต่วันนี้เค้ายังไม่ได้อยู่ ก็ค่อยว่ากัน เพราะหน้าที่ของผู้อำนวยการพรรค คือการวางตัวผู้สมัคร หากวันหนึ่งต้องมีการเลือกตั้งทันทีแล้ว ตนยังไม่ได้วางตัวผู้สมัคร ตนก็ต้องรับผิดชอบในฐานะผู้อำนวยการพรรค คือ ต้องลาออกจากตำแหน่ง ส่วนในเขตพื้นที่ของนายอิทธิพล ก็ได้เว้นให้นายอิทธิพลตัดสินใจก่อน โดยตามมารยาทต้องให้สิทธิ์กับคนเก่าก่อน เพราะเป็นเพื่อนกัน ไม่เช่นนั้นจะอยู่กันอย่างสามัคคีไม่ได้ ซึ่งเห็นต่างได้แต่ความสามัคคีจะต้องไม่แตก.