โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” ยันผู้ป่วยโควิด-19 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ห้าม รพ.เอกชน ปฏิเสธการรักษา หรือเรียกเก็บค่ารักษา ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มตามคาดการณ์สั่งคุมเข้มทุกมิติ
วันนี้ (20 ก.พ.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ รวม 18,953 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 18,770 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 183 ราย ผู้ป่วยสะสม 488,880 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 13,962 ราย หายป่วยสะสม 358,737 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 162,460 ราย เสียชีวิต 30 ราย ล่าสุด การให้บริการวัคซีนโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 121,623,706 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,106,330 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,450,301 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 17,600,616 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,466,459 โดส
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันรัฐบาลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ดังนั้น ผู้ป่วยโควิด-19 ยังถือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน และสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากสถานพยาบาลเอกชนมีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วยโควิด-19 หรือญาติ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกประกาศฉบับเดิม จะถือว่าเป็นการกระทำผิดพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่มีการปรับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดใดๆ ในขณะนี้ โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ จึงอยากให้ประชาชนเน้นการดำเนินชีวิตในรูปแบบ New Normal เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 อย่างเคร่งครัดต่อไป พร้อมสั่งคุมเข้มทุกมิติ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ว่า เดือนเมษายนประชาชนในประเทศจะได้รับวัคซีนมากพอ ซึ่งขณะนี้กลุ่มผู้สูงอายุได้รับวัคซีนเข็ม 2 เกือบ 80% พร้อมเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เข้ารับวัคซีนได้ที่จุดให้บริการวัคซีนทุกแห่งทั่วประเทศ ขอให้มั่นใจได้ว่าวัคซีนมีความปลอดภัย