xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” ถก คกก. EIA เห็นชอบ 4 โครงการ สั่งเร่งติดตามผลกระทบน้ำมันรั่วด่วน-แก้ปัญหา PM 2.5 จริงจัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิ๊กป้อม” ประชุมคณะกรรมการ EIA ผ่านความเห็นชอบ 4 โครงการ สั่ง จ.ระยอง ตั้งคณะทำงานเร่งติดตามการช่วยเหลือประชาชนที่รับผลกระทบน้ำมันรั่วด่วน และให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญแก้ปัญหา PM 2.5 อย่างจริงจัง

วันนี้ (17 ก.พ.) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. เป็นประธานประชุม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อติดตามขับเคลื่อนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
สรุปสาระสำคัญ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินการ ปี 64 จากการสำรวจความเชื่อมั่นในกระบวนการ EIA พบว่า มีระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 80.20 เห็นชอบ 404 โครงการ มีโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ 6,299 โครงการ ได้รับการร้องเรียน 29 โครงการ และรับทราบผลติดตามการปรับลดอัตราการระบายมลพิษทางอากาศ 80:20 พบอัตราการระบายก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ ทส.ดำเนินการต่อและผลักดันให้มีระบบฐานข้อมูลกลางให้มีหน่วยงานกลางกำกับดูแลทั้งในและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม สำหรับเรื่องร้องเรียน ขอให้ ทส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตอบผู้ร้องทุกราย เพื่อรับทราบข้อมูลและสถานะของโครงการไปพร้อมกัน

ที่ประชุมยังรับทราบ แนวทางการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ ที่มอบหมายให้ ทส.ประสาน มท.และ สธ. เพื่อให้องค์กรปกครองท้องถิ่น บริหารจัดการแบบรวมศูนย์ (Cluster) และให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในอนาคต และรับทราบรายงาน กรณีการแก้ไขน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลจังหวัดระยอง ซึ่งสามารถควบคุมดูแลสถานการณ์และขจัดคราบน้ำมันจนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อ 1 ก.พ. 65 และมอบหมายให้ ทส.ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสถานภาพของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลกระทบและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามกฏหมายจากบริษัทฯ
ต่อจากนั้น ได้ร่วมกันพิจารณาและให้ความเห็นชอบ 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้ารางเดียวสายสีเทา ระยะที่ 1 วัชรพล-ทองหล่อ โครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลวัตต์ ตาก 2-แม่สอด โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ และโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และให้ความเห็นชอบกรอบการประชุมระหว่างประเทศ ที่จะจัดขึ้นใน มี.ค. 65 ทั้งการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 5 ณ ประเทศเคนยา และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามตะ ว่าด้วยตลอดสมัยที่ 4 ณ ประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งให้ความเห็นชอบการกำหนดอัตราค่าบริการในการจัดการมูลฝอยติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและคาดการณ์ต้นทุนในระยะเวลา 20 ปี และ การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากสถานที่ฝังกลบมูลฝอย อย่างถูกหลักสุขาภิบาล

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่วมกันแล้ว เสนอ ครม. ต่อไป พร้อมทั้งย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจในกระบวนการและมาตรการสิ่งแวดล้อมร่วมกันให้มากขึ้น ทั้งนี้ต้องไม่ละเลยในทุกเรื่องที่มีการร้องเรียน โดยต้องให้ข้อมูลและทำความเข้าใจ ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นเป้าหมายหลักของการดำเนินการร่วมกัน

สำหรับปัญหาน้ำมันรั่วไหล ขอขอบคุณกองทัพเรือ ที่เป็นหลักสนับสนุนการดำเนินการอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่องที่ผ่านมา และขอให้ ทส.ประสานกับ มท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงสำรวจความเสียหายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งชายฝั่งและใต้ทะเลให้ทั่วถึง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จัดตั้งคณะทำงานติดตามการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเร่งรัดให้บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รับผิดให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วนให้ทั่วถึงโดยเร็ว

สำหรับปัญหา PM 2.5 ที่เกิดขึ้น ขอให้ ทส.ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ เร่งลงพื้นที่ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือกับประชาชน รวมทั้งบังคับกฎหมายในความรับผิดชอบควบคู่กันไป มุ่งลดต้นเหตุของมลพิษที่เกิดขึ้นตามมาตรการที่กำหนด โดยเฉพาะ กทม.และเมืองใหญ่ ทั้งปัญหาจากยานพาหนะ การก่อสร้าง การเผาพืชผลการเกษตร และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งขอให้พิจารณาเร่งขับเคลื่อนมาตรการการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น