xs
xsm
sm
md
lg

“ครูธัญ” หวัง ครม.ศึกษา “พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม” จริง ไม่ใช่เตะถ่วงหาช่องทางล้ม กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ครูธัญ” หวัง ครม.ใช้เวลา 60 วัน ศึกษา พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม จริง ไม่ใช่แค่หวังยื้อเวลา หาช่องทางล้มกฎหมาย

วันนี้ (10 ก.พ.) นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. .... หรือ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กล่าวภายหลังที่ประชุมสภา​ เสียงข้างมากโหวตอนุญาตให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) นำร่างดังกล่าวไปศึกษา 60 วัน ก่อนส่งกลับสภา เพื่อลงมติวาระรับหลักการสมัยหน้า ว่า น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่สามารถลงมติที่ ส.ส.เป็นผู้เสนอกฎหมายที่สำคัญต่อพี่น้องประชาชนได้สำเร็จโดยง่าย ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ได้ยื่นไปตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2563 จนถึงวันนี้รวม 450 วันแล้ว แต่สุดท้ายยังต้องส่งไปยัง ครม.ก่อนอีก 60 วัน โดยบอกว่าเพื่อศึกษาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว

“ในฐานะผู้เสนอกฎหมายฉบับดังกล่าว อยากตั้งคำถามต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ ว่า เราจะต้องใช้เวลาอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ที่ชีวิตของคู่รักกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ จะได้รับสิทธิ ศักดิ์ศรี และสวัสดิการอย่างเท่าเทียม นี่เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจประชาชนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมาตลอด โดยเฉพาะเมื่ออุบัติเหตุ หรือวิกฤตในชีวิต เรื่องที่ชี้เป็นชี้ตายอาจเกิดขึ้นกับพวกเขาได้ทุกเมื่อ แต่เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่เร่งด่วนจากสภาเสียงข้างมากซึ่งรัฐบาลเป็นผู้กุมเสียงเหล่านี้”

ทั้งนี้ นายธัญวัจน์ กล่าวอีกว่า กฎหมายทุกฉบับที่มีผลต่อชีวิตประชาชนล้วนเป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งสิ้น จึงหวังว่า เวลา 60 วัน ที่เป็นกรอบเวลาศึกษาของ ครม.จะถูกนำศึกษาจริงๆ และศึกษาอย่างปราศจากอคติ พิจารณาด้วยมุมมองที่ก้าวหน้า มองเห็นประโยชน์ของประชาชน อย่าให้เวลา 60 วัน ที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และผู้ที่อยากเห็นความเท่าเทียมเกิดขึ้นในประเทศนี้ ต้องสูญเสียโอกาสด้วยการใช้เทคติกทางกฎหมาย เพียงเพราะแค่ต้องการถ่วงเวลา เพื่อเอาไปให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล เช่น กฤษฎีกาช่วยตีความประทับตราว่าไม่ควรรับหลักการ เพื่อนำมาเป็นข้ออ้างให้ต่อสภาในการไม่ผ่านกฎหมายของฝ่ายค้านเพียงเท่านั้น ทั้งที่เวลาที่ควรต้องอภิปรายแย้งในสภาด้วยเหตุผลกลับไม่มี ส.ส.คนใดของรัฐบาลกล้าลุกขึ้นมาพูดว่าไม่เห็นด้วยเพราะอะไร หากคิดแค่จะล้ม เนื่องจากเป็นกฎหมายของฝ่ายค้าน ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นรัฐบาลที่มีไว้เพื่อรักษาประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่มได้


กำลังโหลดความคิดเห็น