“มงคลกิตติ์” โวรวมกลุ่ม ส.ส. 16 คน ตั้งตนเป็นเอกเทศ พร้อมโหวตสวนมติรัฐบาล อ้างยึดผลประโยชน์ ปชช. ปัดต่อรองทางการเมือง
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม 16 ส.ส. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม ส.ส.พรรคเล็ก รวมถึงพรรค ส.ส.พรรคฝ่ายค้านบางส่วน ที่มีแนวทางตรงกัน ได้รวมตัวกันเพื่อดูแลอะไรที่เป็นมติของรัฐบาล ที่จะทำให้เกิดผลกระทบประชาชนและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยมี นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นหัวหน้ากลุ่ม และมี นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย เป็นเลขาธิการกลุ่ม นายดำรง พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เป็นประธานที่ปรึกษากลุ่ม ยืนยันว่าทางกลุ่มก็จะมีมติร่วมกันในทางที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเป็นหลัก ซึ่งไม่สนใจว่าอะไรเป็นมติวิป หรือมติของรัฐบาล ทั้งนี้ จะเป็นคนละกลุ่มกับพรรคเศรษฐกิจไทย แต่บางเรื่องอาจจะมีแนวทางเดียวกัน แต่บางเรื่องอาจจะมีแนวทางไม่ตรงกัน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มจะออกแถลงการณ์เรื่องเร่งการสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเราไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 8 ปี ก็ยังไม่สมควรที่จะรีบต่อสัมปทาน และจะเป็นการต่อสัญญาถึงปี 2602 หรืออีก 30 ปีข้างหน้า เพราะมองว่ารัฐบาลไม่สมควรเร่งทำในรัฐบาลชุดนี้ และเป็นการเซ็นสัญญาล่วงหน้าเหมือนกับตีเช็คเปล่า ถ้าเป็นไปได้หากรัฐทำเองก็จะมีรายได้เข้ามาในระบบรัฐของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงมติต่อสัมปทานดังกล่าว หากยังดึงดันทางกลุ่มจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาดำเนินคดีอาญา และรวบรวมหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย เราเห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ได้ดำเนินการเช่นนั้น ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการเรียกรับผลประโยชน์จากรัฐบาล ในอนาคตทางกลุ่มเราอาจจะเป็นพรรคการเมืองเดียวกันทั้งหมดในการเลือกตัั้งครั้งหน้า หรือในอนาคตเห็นว่าแนวทางพรรคเศรษฐกิจไทยดี เราก็อาจจะไปรวมให้เป็นพรรคที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งก็เป็นไปได้ แต่ต้องรอให้มีการยุบสภาก่อน แต่ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน แม้ว่าจะมีเวลาอีกไม่มากนัก เพราะคิดว่ารัฐบาลคงอยู่ไม่นาน รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเร่งทำเอกสารเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ เพื่อป้องกันนายกฯยุบสภา เพราะเราต้องการให้นายกฯหลุดกลางสภา
"ผมเชื่อว่า คนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะยอมเข้าสู่สนามรบและเดินลุยไฟอย่างแน่นอน เชื่อว่า ไม่มีการทิ้งไพ่ก่อน หรือลาออก เราจะได้เจอกันในช่วงเดือน พ.ค.” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่ตั้งกลุ่ม 16 ส.ส.ขึ้นมา เพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองในการโหวตต่างๆ หรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า น่าจะเป็นการกดดันยุบสภา มากกว่า และกดดันให้นายกฯลาออก
เมื่อถามว่า มองปรากฏการณ์ 18 ส.ส. พรรคเศรษฐกิจไทย ลงมติไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายค้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนเห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กราบ ส.ส.ของพรรค พปชร. ให้เข้าร่วมประชุม และบอกว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ยังเป็นพรรครัฐบาล แต่คงไม่ได้บอกเรื่องการโหวตกับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ว่า จะให้โหวตไปในทางไหน แต่ทราบว่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย จะโหวตไปในทิศทางที่มีประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามว่า ยืนยันว่า ยังเป็นพวกเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย หรือไม่ กล่าวว่า หลายมติเราก็เป็นพวกเดียวกัน ซึ่งวานนี้ (9 ก.พ.) นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ก็เป็นตัวแทนกลุ่มไปเจอ ร.อ.ธรรมนัส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบอกว่า เราสองกลุ่ม แม้จะแยกกลุ่มกัน แต่หลายเรื่องก็เป็นไปแนวทางเดียวกันได้ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อกลุ่ม 16 ส.ส. ได้แก่ ตนเอง นายพิเชษฐ นายพีระวิทย์ นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคชาติพัฒนา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย มี นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย ส่วนที่อยู่ระหว่างการประสานงาน ได้แก่ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจ 4 คน ส.ส.พรรคก้าวไกล 2 คน