รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายก ฯ ดีใจ ผลโพลชี้คนไทยเข้าใจประโยชน์จากความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ดีต่อจังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (9 ก.พ.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสำรวจซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เรื่อง “ฟื้นสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ความหวัง ความห่วงใย ชายแดนใต้” จากกรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,137 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-4 ก พ. ที่ผ่านมา ที่พบว่า ร้อยละ 95.5 ระบุทุกคนคือคนไทย ไม่ว่าอยู่ภาคใด ศาสนาและวัฒนธรรมใดในประเทศไทย ก็คือ คนไทยด้วยกัน ร้อยละ 94.8 มองว่า เราเป็นคนไทยด้วยกันต่างห่วงใยต่อปัญหาใต้ พร้อมช่วยกันและไม่ทอดทิ้งกัน มากไปกว่านั้น ร้อยละ 90.2 เชื่อว่า การฟื้นสัมพันธ์เป็นโอกาสและความหวัง ในการศึกษาเข้าถึงแก่นของศาสนาและยุติปัญหาความรุนแรง และ ร้อยละ 89.0 เชื่อว่า เป็นโอกาสของการจัดตั้ง “ศูนย์กลางอาหารฮาลาลโลก” สู่ตะวันออกกลาง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบผลสำรวจดังกล่าว และรู้สึกดีใจที่ประชาชนคนไทยมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ และที่สำคัญ เข้าใจถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ของสองประเทศ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และที่สำคัญ ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีบทบาทอย่างมากในกลุ่มสมาชิกของกรอบความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation) หรือ OIC ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อความสัมพันธ์ทางการทูตไทยต่อประเทศตะวันออกกลาง และประเทศมุสลิมในภูมิภาคอื่น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในกลางเดือน ก.พ.นี้ เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกจะเดินทางจากซาอุดีอาระเบียมาเยือนประเทศไทย ซึ่งท่านเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากประชาคมโลก ว่า เป็นปราชญ์ด้านพหุศาสนาและพหุวัฒนธรรม ต้องการผลักดันความร่วมมือในการป้องกันปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนต่างศาสนา และจะได้มีการเยี่ยมคารวะสมเด็จพระสังฆราช จุฬาราชมนตรี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภา ด้วย ซึ่งถือเป็นอีกวาระสำคัญของการเน้นย้ำของไทยในการเคารพซึ่งทุกศาสนา และยึดมั่นแนวทางการพัฒนาบนพื้นฐานสังคมที่มีความหลากหลาย
“เพื่อต่อยอดโอกาสจากการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ นายกรัฐมนตรีกำชับให้เร่งขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ของคนทุกศาสนา ครอบคลุมทุกด้าน พร้อมกับให้เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และ ทาง ศอ.บต. ได้เตรียมจัดเวทีสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ ข้าราชการ และประชาชนทุกสาขาอาชีพ กว่า 500 คนที่มีประสบการณ์ทั้งการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ข้อมูลที่ได้จะเสนอต่อรัฐบาล เพื่อใช้ประกอบการจัดทำนโยบายและแนวทางการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” นางสาวรัชดา กล่าว