ศบค.เผย “โอมิครอน” แพร่กระจายในครอบครัวง่ายกว่า “เดลตา” อยู่ที่ 40-50% พบ กทม.คลัสเตอร์สถานดูแลผู้สูงอายุ 25 ราย ยังพบคลัสเตอร์ตลาดพุ่ง เหตุสถานที่ปิดอับ-แผงไม่เป็นระเบียบ-ไม่สวมหน้ากากอนามัย
วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงว่า การติดเชื้อที่มีการรายงานเป็นคลัสเตอร์ยังพบกระจายเป็นคลัสเตอร์เล็กๆทั่วประเทศ เช่น คลัสเตอร์จากงานเลี้ยงสังสรรค์ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานศพและงานบวช ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่มากในแต่ละคลัสเตอร์แต่มีประสิทธิภาพในการแพร่กระจายสูง สำหรับโควิดสายพันธุ์โอมิครอนโดยแพร่กระจายไปในครอบครัว ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อในครอบครัวอยู่ที่ 40-50% ขณะที่หากเทียบกับอัตราการแพร่กระจายของสายพันธุ์เดลต้าไปยังครอบครัวอยู่ที่ 10-20% จะเห็นได้ว่าสายพันธุ์โอมิครอนมีการติดเชื้อและแพร่ระบาดง่าย
พญ.สุมนี กล่าวต่อว่า ส่วนใน กทม.การติดเชื้อยังมีอยู่เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด อยู่ที่คลัสเตอร์สถานดูแลผู้สูงอายุพบผู้ติดเชื้อ 25 ราย สำหรับคลัสเตอร์สถานพยาบาล กทม. 39 ราย จังหวัดขอนแก่น จังหวัดปทุมธานี จังหวัดชลบุรี 8 ราย จังหวัดสมุทรปราการ 7 ราย จังหวัดลพบุรี 5 รายจังหวัดสงขลา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดภูเก็ต จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดสระบุรี จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดปัตตานี จังหวัดละ 3 ราย ส่วนคลัสเตอร์โรงเรียนและสถานศึกษามีรายงานพบเป็นระยะที่จังหวัดสระแก้ว 44 ราย จังหวัดสุรินทร์ 26 ราย จังหวัดยโสธร 25 ราย จังหวัดสุพรรณบุรี 20 ราย จังหวัดน่าน 19 ราย จังหวัดราชบุรี 13 ราย จังหวัดมหาสารคาม 11 รายจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดละ 9 ราย จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดมุกดาหารจังหวัดละ 5 ราย ขณะที่คลัสเตอร์โรงงานและสถานประกอบการ พบที่จังหวัดชลบุรี 20 ราย จังหวัดลพบุรี 12 ราย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 10 ราย จังหวัดปราจีนบุรี 7 ราย จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดละ 6 ราย จังหวัดอุดรธานี 5 ราย ทั้งคลัสเตอร์งานประเพณีเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ มีผู้ติดเชื้อไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นงานศพ ยังพบที่จังหวัดอุบลราชธานี 6 ราย จังหวัดมหาสารคาม 5 ราย และจังหวัดสงขลา 4 ราย ส่วนงานแต่งงาน พบที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดสงขลา จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดราชบุรี 2 ราย ส่วนงานบวช พบที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 4 รายและจังหวัดขอนแก่น 2 ราย
พญ.สุมนี กล่าวด้วยว่า คลัสเตอร์ที่พบมากที่สุดวันนี้ คือ คลัสเตอร์ตลาด พบ กทม.มากที่สุด 66 ราย จังหวัดชลบุรี 29 ราย จังหวัดอุบลราชธานี 23 ราย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 22 ราย จังหวัดขอนแก่น 13 ราย และจังหวัดน่าน 11 ราย โดยพบปัจจัยการแพ้เชื้อ เรื่องสถานที่ที่มีอากาศปิดอับ แผงในตลาดไม่ได้จัดให้เป็นระเบียบ มีคนหนาแน่นทั้งคนที่ทำงานในตลาด และผู้ที่ไปซื้อของ รวมถึงไม่เคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยหรือสวมหน้ากากอนามัยไม่ถูกต้องใส่ไว้ใต้ค้าง ไม่มีการวัดอุณหภูมิไม่มีจุดวางเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบแรงงานที่ทำงานในตลาด 1 รายไปทำงานในหลายที่ ซึ่งเป็นแรงงานที่มีการเคลื่อนย้ายบ่อย ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคและแพร่ระบาด ดังนั้นเพื่อลดการแพทยระบาดและการติดเชื้อ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการเจ้าของตลาด พ่อค้าแม่ค้าในเรื่องสภาพแวดล้อมทั้งปรับสภาพแผงการขายให้เป็นระเบียบปรับการระบายอากาศให้มีอากาศถ่ายเท หรือความเสี่ยงเกิดจากการสัมผัสธนบัตร เนื้อสัตว์ผักและผลไม้โดยตรง โดยป้องกันได้ด้วยการล้างมือทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์ร้านอาหารและสถานบันเทิงถือว่ามีการระบาดน้อยลง เมื่อเทียบกับคลัสเตอร์อื่นๆ พบที่จังหวัดขอนแก่น 15 ราย จังหวัดร้อยเอ็ด 13 ราย จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 9 ราย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดละ 5 ราย จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสงขลา จังหวัดชุมพร จังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน จังหวัดละ 2-3 ราย.