ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน แจง ดรามา “ก้าวไกล-เพื่อไทย” รับฝ่ายค้านต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อรวมพลังโค่นรัฐบาล
วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.10 น. ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวิปฝ่ายค้านถึงกรณีปัญหาสภาล่ม ก่อให้ดรามาระหว่างพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากการประสานกันหน้างานระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ในที่ประชุมสภา ที่มีความขลุกขลักไม่เข้าใจกัน โดยวิปฝ่ายค้านมีมติที่จะไม่เป็นองค์ประชุม ดังนั้น ในการพิจารณารายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วเรื่องคลองไทย พรรคก้าวไกลจึงได้แจ้งสมาชิกว่าเราจะไม่แสดงตนในการโหวตรายงานฉบับนี้ แต่พรรคเพื่อไทยมีการแสดงตน จึงเป็นความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยในวาระถัดไปคือรายงานศึกษาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายในลักษณะไม่เห็นด้วย ทำให้ต้องมีการลงมติ ทั้งนี้ รายงานฉบับถัดไปที่จะเข้าสู่การพิจารณา คือ รายงานบำนาญแห่งชาติ ซึ่งเป็นเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนและหาเสียงด้วยนโยบายนี้มาโดยตลอด เราจึงจำเป็นต้องให้สภาไปต่อได้ เราจึงแสดงตนในการพิจารณารายงานศึกษาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง
เมื่อถามว่า วิปฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยกันก่อนจะมีการแสดงตนหรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า การพูดกันหน้างานบางทีก็ไม่เป็นผล เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสภา เกิดจากการให้ความเห็นที่ใส่กันไปใส่กันมาระหว่างฝั่งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งท้ายที่สุด ส.ส.เพื่อไทย ก็ได้มีการลุกขึ้นพูดถึงจุดยืนในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อพูดเช่นนั้น พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องลุกขึ้นแสดงจุดยืนว่าอาจไม่ใช่ความเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด เพราะพรรคก้าวไกลเห็นต่างออกไป
เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่า แทนที่จะให้เป็นดรามาในโซเชียล แต่ผู้สนับสนุนพรรคก็ทะเลาะกันเอง เหตุใดผู้ใหญ่จึงไม่คุยกันให้มันจบ นายพิจารณ์ กล่าวว่า เนื่องจากเราเป็นพรรคการเมืองคนละพรรค จึงมีแนวคิดแนวทางที่แตกต่างกัน แต่เราจะต้องแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง เพื่อให้เสถียรภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้มแข็งที่สุด ในภาวะที่เป็นวิกฤตศรัทธาที่เกิดกับฝั่งรัฐบาล เป็นวิกฤตการประชุมสภาที่รัฐบาลไม่สามารถประคองต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือ ฝ่ายค้านจะต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกันให้มากกว่านี้ เพื่อให้มีพลังมากกว่านี้ที่จะโค่นล้มรัฐบาลได้ ทั้งนี้ สำหรับในโซเชียล ตนคิดว่า เป็นออแกนิกมากที่แฟนคลับของแต่ละพรรคจะออกมาแสดงความเห็น โดยเฉพาะในระดับทวิตเตอร์คงไม่ทราบว่าแอกเคานต์ไหนเป็นของใคร แต่ในระดับ ส.ส.ของพรรค เราก็พยายามพูดคุยกันให้ผ่อนหนักเป็นเบาในการแสดงความเห็นต่างๆ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย พวกเราไม่อยากเห็นความแตกแยกระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เรายังมีภารกิจร่วมกันในการล้มรัฐบาลนี้
เมื่อถามว่า จากนี้จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันอย่างไรบ้าง นายพิจารณ์ กล่าวว่า วันนี้เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมวิปฝ่ายค้าน และเวลา 11.00 น. จะมีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็น่าจะแสวงหาแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการลักษณะนี้ขึ้นอีก ซึ่งคงจะต้องไล่กันไปตามวาระและลงรายละเอียดให้มากขึ้นว่า วาระไหนที่พรรคใดมีจุดยืนอย่างไร ก็จะต้องหาแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ที่ผ่านมาเป็นการพูดคุยแนวปฏิบัติที่หลวมๆ ให้ไปดูกันหน้างาน ซึ่งการดูหน้างานเป็นปัญหาอยู่