“ราเมศ” อัด กมธ.ป.ป.ช.สอบ “ดร.เอ้” ขัด รธน. ทำนอกอำนาจหน้าที่ อัด ก้าวไกล อ้างการเมืองรุ่นใหม่ แต่เล่นการเมืองฉาบฉวยหวังแค่ผลประโยชน์
วันนี้ (6 ก.พ.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตเเละประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า เชื่อว่า นายสุชัชวีร์ สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ ส่วนการที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้จุดประเด็นเรื่องการตรวจสอบในกรณีร่ำรวยผิดปกติ หลักการในเรื่องนี้ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เชื่อว่า คนที่เป็น ส.ส.จะทราบดีว่า คณะกรรมาธิการของสภา มีอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญและข้อบังคับกำหนด คือ การพิจารณา ศึกษา เรื่องใดๆ และให้รายงานต่อสภาทราบ แต่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภา นอกเหนืออำนาจไม่สามารถกระทำการได้
นายราเมศ กล่าวว่า กรณี นายสุชัชวีร์ เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดี ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งอำนาจในการตรวจสอบในเรื่องของบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงกรณีการร่ำรวยผิดปกติรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดในมาตรา 234(2) ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฉะนั้น การอกมาแถลงข่าวของพรรคก้าวไกลที่จะดำเนินการตรวจสอบโดยมุ่งประเด็นไปที่กรณีร่ำรวยผิดปกติ รวมถึงทรัพย์สิน ถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจของ ป.ป.ช. กระทำการทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ ขัดแย้งกับหลักการของรัฐธรรมนูญชัดเจน การจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงต้องระมัดระวังในการดำเนินการ
“เรื่องนี้ไม่มีใครไปขัดขวางการตรวจสอบ เชื่อว่า การตรวจสอบคือการตั้งต้นนำไปสู่การเมืองที่สุจริต แต่กระบวนการต้องถูกต้องตรงไปตรงมา ส.ส.พรรคก้าวไกล ต้องดำเนินการคิดให้รอบคอบ อย่าคิดเพื่อหวังผลในทางการเมืองอย่างเดียว ที่บอกว่าเป็นพรรคการเมือง นักการเมือง รุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ทำอย่างตรงกันข้าม เพราะหากคิดใช้เรื่องนี้เพื่อประโยชน์ในทางการเมือง ขอให้ประชาชนชาว กทม.จับตาดูให้ดีว่าพรรคการเมืองบางพรรคไม่ได้คิดถึงประชาชนอย่างแท้จริง ทำอะไรฉาบฉวย ฉกฉวยประโยชน์ทางการเมือง เชื่อว่า ประชาชนจะรับรู้ข้อมูลมากขึ้น” นายราเมศ กล่าว