xs
xsm
sm
md
lg

ช่างกล้า!! “เนตร นาคสุข” อดีตรองอัยการสูงสุด “คดีบอส” โผล่สมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช. **SME ขอ 4 กุมาร กลับมาช่วย “อุตตม” รับกระแสเรียกร้องทาบ “สมคิด” คัมแบ็ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ช่างกล้า!! “เนตร นาคสุข” อดีตรองอัยการสูงสุด “คดีบอส” โผล่สมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช.

หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่างลง 1 ตำแหน่ง ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จึงเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา เป็นกรรมการ ป.ป.ช. แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีกำหนดเปิดรรับสมัครระหว่าง วันที่ 31 ม.ค.- 21 ก.พ. 65

ปรากฏว่า เปิดรับสมัครไปแล้ว 3 วัน ก็ยังไม่มีใครมาสมัคร กระทั่งเข้าวันที่ 4 คือ เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) ก็มีผู้มายื่นสมัครเป็นคนแรก เขาผู้นั้นคือ ... “เนตร นาคสุข” อดีตรองอัยการสูงสุด ที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาว จากกรณีสั่งไม่ฟ้อง “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ที่ขับรถเฟอร์รารี่ ชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 นั่นเอง

“เนตร นาคสุข” เป็นรองอัยการสูงสุด ในช่วงที่ “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์” เป็นอัยการสูงสุด โดยในช่วงที่มีการพิจารณาสั่งคดี “บอส อยู่วิทยา” นั้น อัยการสูงสุดติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ “เนตร นาคสุข” รองอัยการสูงสุด เป็นผู้สั่งคดีแทน และเนตรก็สังไม่ฟ้อง “บอส” จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ก่อวิกฤตศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ว่า ไม่สามารถพึ่งหวังได้ ...

เนตร นาคสุข
ต่อมามีการตั้งกรรมการรื้อฟื้นคดี “บอส อยู่วิทยา” ขึ้นมาใหม่ ทั้งเรื่องความเร็วรถ และเรื่องเสพยาเสพติดขณะขับรถ และมีการสั่งฟ้องคดีใหม่... ขณะเดียวกัน “เนตร” ก็ถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จริง โดยมี “กายสิทธิ์ พิศวงปราการ” กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน

ผลสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นของคณะกรรมการชุด “กายสิทธิ์” สรุปว่า “เนตร” มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะไม่พบการทุจริต แต่เป็นเพียงความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะมีบทลงโทษ เพียงแค่งดบำเหน็จ หรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่เสนอโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส เท่านั้น

เมื่อข่าวผลสอบออกมาเช่นนี้ ยิ่งสร้างความมผิดหวังแก่สังคม มองว่า องค์กรอัยการปกป้องคนกันเอง ภาพลักษณ์ขององค์กรอัยการที่ตกต่ำอยู่แล้ว ยิ่งกู่ไม่กลับ

 พชร ยุติธรรมดำรง
เมื่อผลสอบข้อเท็จจริง ถูกส่งถึงคณะกรรมการอัยการ เพื่อพิจารณา ก็เป็นช่วงที่ “พชร ยุติธรรมดำรง” มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) จึงเรียกประชุม ก.อ. และที่ประชุมเห็นว่า ควรตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุ” จึงมีการตั้ง “ธนพิชญ์ มูลพฤกษ์” (ก.อ.สายบำนาญ) เป็นประธานกรรมการ เเละ กรรมการ อีก 6 ท่าน ร่วมสอบวินัยร้ายแรง โดยกำหนดกรอบเวลาสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 60 วัน หากไม่เสร็จ ก็สามารถขอขยายเวลาสอบเพิ่มได้อีก 2 ครั้ง รวมแล้วไม่เกิน 180 วัน

ล่าสุด มีรายงานว่า ผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุข” นั้นเสร็จสิ้นแล้ว เพียงแต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย ... ขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะมีการเรียก “เนตร” เข้ารับทราบผลการสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหา โดยผู้ถูกสอบจะสามารถให้การ หรือทำคำให้การเพิ่มเติมครั้งสุดท้าย ภายหลังรับทราบผลสรุปการสอบสวนอีกครั้ง โดยมีระยะเวลาทำคำให้การใน 30 วัน ก่อนคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง จะส่งผลสรุปให้ ก.อ. พิจารณาเเละมีมติต่อไป

แต่ผลการสอบวินัยร้ายแรงยังไม่เป็นที่เปิดเผย และยังไม่มีมติจากคณะกรรมการอัยการ ก็ปรากฏว่า “เนตร นาคสุข” ได้ไปสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ ป้องกัน  และปราบปรามการทุจริต

วรยุทธ อยู่วิทยา
เมื่อ “เนตร นาคสุข” สมัครเข้ารับการสรรหาแล้ว หลังจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ “กรรมการสรรหา” ที่ประกอบด้วย...1. ประธานศาลฎีกาเป็นประธานโดยตำเเหน่ง 2. ประธานสภาผู้แทนราษฎร 3. ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 4. ประธานศาลปกครองสูงสุด 5. บุคคลซึ่งศาลรัฐธรรมนูญแต่งตั้ง

6. บุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้ง 7. บุคคลซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินแต่งตั้ง และ 8. บุคคลซึ่งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินแต่งตั้ง
ก็ต้องวัดใจว่า กรรมการทั้ง 8 ท่านนี้ จะมีมติอย่างไร จะเลือก “เนตร นาคสุข” เป็นกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่... ถ้าเลือก ขั้นตอนต่อไปก็ต้องเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ เป็นอันจบกระบวนการ
กรรมการสรรหาจะตัดสินอย่างไร ต้องรอดูผล แต่สำหรับสังคมโดยทั่วไปแล้ว แค่ได้ข่าวว่า “เนตร นาคสุข” ไปสมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ก็ได้แต่อุทานว่า...แหม..ช่างกล้า!!



**SME ขอ 4 กุมาร กลับมาช่วย “อุตตม” รับกระแสเรียกร้องทาบ “สมคิด” คัมแบ็ก

อุตตม สาวนายน
หลังจากประกาศเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งนำโดย ทีมเศรษฐกิจ “2 ใน 4 กุมาร” ที่รู้จักกันดี ทั้ง “อุตตม สาวนายน” อดีตรมว.คลัง-อุตสาหกรรม และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีต รมว.พาณิชย์-พลังงาน ต่างก็เคลื่อนไหวพบปะแลกเปลี่ยนภาคส่วนต่างๆ ถี่ๆ เห็นว่า เพื่อรับฟังปัญหาและนำมาปั้นเป็นนโยบายพรรคตามศักยภาพที่มีความถนัดเรื่องเศรษฐกิจเป็นธงนำ
ล่าสุด ที่สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย “อุตตม” ในฐานะแกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมคณะ อาทิ ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกมล นายสันติ กีระนันท์ และ นายนริศ เชยกลิ่น เข้าพบกับผู้บริหารสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่วันนี้ต้องบอกว่า เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่เดือดร้อนแสนสาหัสจากพิษเศรษฐกิจ ผลกระทบจากโควิดจนเจียนอยู่เจียนไป ด้วยภาวะทุนหาย กำไรหด แถมภาระหนี้สินเบ่งบาน
ความหวังที่ Sme จะอยู่รอดอย่างไร? เป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ที่หลังจากแลกเปลี่ยนได้คุยกัน “อุตตม” บอกว่า เรื่องของเอสเอ็มอี จะเป็น 1 ในนโยบายหลักของพรรคแน่นอน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปากท้อง ทั้งการเติมทุน เพิ่มสภาพคล่อง ด้วยการจัดตั้งกองทุนเอสเอ็มอีไทย ที่เบื้องต้นวางทุนไว้ 1 แสนล้านบาท และลดภาระหนี้สิน รวมถึงเพิ่มทักษะ ขีดความสามารถทางการแข่งขัน Sme ตามการเปลี่ยนแปลงโลก
ต้องไม่ลืมว่า ความสำคัญของธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีประชากรเกี่ยวข้องมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งประเทศ

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ดังนั้น แผนการ “สร้างอนาคตให้ Sme” ถ้าขับเคลื่อนได้ ก็น่าจะเป็น “ความหวัง” เป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง ซึ่งเข้าทางอดีตทีมเศรษฐกิจ 4 กุมาร ที่จะว่าไปแล้วนโยบายเกี่ยวกับ SME ถูกวางรากฐานและทำกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ยุค “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” คิดไทยรักไทยทำ มาถึงรัฐบาล คสช. ต่อด้วยช่วงหนึ่งของ รัฐบาลลุงตู่
ไม่น่าแปลกใจว่า งานนี้จะมีเสียงเรียกร้องจาก SME ให้ทีม 4 กุมาร มาช่วยดูแลเอสเอ็มอี และเรียกร้องให้ “สมคิด” คัมแบ็กมาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน
เมื่อมีเสียงถามมา “อุตตม” ก็ตอบเสียงดังฟังชัด กรณีของ “สมคิด” ได้ทาบทามไปแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอการตัดสินใจของ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่า จะเข้าร่วมทำงานทางการเมืองกับพรรคเมื่อใด ซึ่งก็ยอมรับว่าที่ผ่านมา “สมคิด” ให้กำลังใจและสนับสนุนแนวทางของพรรค ตั้งแต่ก่อนก่อตั้งพรรค ส่วนตัวต้องการให้เข้ามาช่วยทำงาน เพราะเป็นเสียงสะท้อนเรียกร้องจากประชาชน และคิดว่าจะชู เป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรค ซึ่งโดยขั้นตอนก็ต้องถามสมาชิกพรรคด้วย
ตอนนี้ปี่กลองมโหรีการเมืองเริ่มดังโหมโรง ส่งสัญญานว่าเลือกตั้งใกล้เช้ามา “พรรคสร้างอนาคตไทย” และ “สมคิด” จะพัฒนาไปอย่างไร งานนี้ต้องโปรดติดตาม.




กำลังโหลดความคิดเห็น