กมธ.การพัฒนาการเมือง เตรียมเสนอปรับปรุง กม.เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิฯ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังมีการร้องเรียนกลั่นแกล้งทำให้เสียหาย
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.05 น. ที่รัฐสภา น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า การประชุมของคณะ กมธ. วานนี้ (2 ก.พ.) ได้พิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากกรณีมีผู้ร้องเรียนอันเป็นเท็จหรือกลั่นแกล้ง เสนอต่อหน่วยงานรัฐให้มีการตรวจสอบหรือดำเนินคดีต่างๆ ทั้งนี้ การพิจารณาสืบเนื่องจากมีกรณีการยื่นคำร้องอันเป็นเท็จต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อหวังให้เกิดภาพข่าวหรือการนำเสนอของสื่อมวลชน ทางคณะ กมธ. เห็นว่า ต้องมีการแก้ไข เพื่อให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้รับความเป็นธรรม เพราะเมื่อถูกยื่นร้องเรียนย่อมทำให้เกิดความเสียหายด้านชื่อเสียง และการทำงาน ดังนั้น คณะ กมธ. จึงได้เชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลยุติธรรม อัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) มาร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับกระบวนการรับพิจารณาเรื่องร้องเรียน และบทลงโทษเมื่อมีการร้องเรียนเท็จ เพื่อหามาตรการคุ้มครองผู้ถูกร้อง โดยที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ จะเชิญสื่อมวลชนมาร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน
น.ส.สุทธวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะ กมธ. ยังได้พิจารณาประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการดำเนินกิจกรรมองค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ฉบับที่ พ.ศ. … (ประกอบร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …) ที่ผ่านการพิจารณาขอคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีผู้แทนจากสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน และองค์กรจากอาร์ติเคิล 19 เข้าร่วมประขุม โดยแสดงความห่วงกังวลร่างกฎหมายดังกล่าว ในประเด็นการแจ้งชื่อแหล่งเงินทุนในต่างประเทศ บัญชีธนาคารที่รับเงิน และวัตถุประสงค์ที่จะใช้จ่าย ซึ่งพิจารณาได้ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนตัวขององค์กร นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการกำหนดโทษแก่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร กมธ.เห็นว่า เรืองนี้มีความสำคัญ เพราะองค์กรไม่แสวงหากำไรมีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคมและประเทศ คณะ กมธ. จึงให้คณะทำงานพิจารณาเปรียบเทียบร่างกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่ร่างจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ