“สิระ” ยื่นร้อง กกต. เอาผิด “สุรชาติ” หาเสียงรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เกินจริง เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เป็นไปไม่ได้ ชี้เป็นแค่ ส.ส.ไม่มีอำนาจยกเลิกสัมปทาน มั่นใจ “มาดามหลี” ชนะ 100%
วันนี้ (27 ม.ค.) นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบกรณีที่ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 กทม.พรรคเพื่อไทย กรณีขึ้นป้ายหาเสียง ว่า รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน เนื่องจากเห็นว่าการขึ้นป้ายหาเสียงดังกล่าว เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73(5) ที่ระบุว่า หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหรือไม่
นายสิระ กล่าวว่า โครงการนี้ไม่สามารถทำได้จริง การหาเสียงครั้งนี้เพื่อเข้ามาเป็น ส.ส.ไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจที่จะไปยกเลิกสัมปทาน อำนาจ ส.ส.ไม่สามารถยกเลิกสัมปทานหรือเปลี่ยนแปลงข้อสัญญา ซึ่งเรื่องนี้แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมผู้มีอำนาจเต็มก็ยังทำไม่ได้ และหากจะยกเลิกเพื่อให้ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าราคาถูก รัฐต้องชดเชยค่าส่วนต่างในสัญญา ส.ส.ไม่มีอำนาจทำเรื่องนี้ ยกเว้นคนที่รับปากหาเสียงจะต้องนำเงินตัวเองมาชดเชยเสียเอง ซึ่งตัวผู้สมัครหากมีสนามกอล์ฟเอาไปขายก็ไม่เพียงพอที่จะชดใช้ หรือว่าไปเอาที่ธรณีสงฆ์ที่ใดมาขายแล้วได้เงินมาก็ไม่สามารถเอามาชดเชยได้ ดังนั้น จึงขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบว่าได้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
“มั่นใจว่า การหาเสียงครั้งนี้ทำไม่ได้ อายุของสภาฯเหลือไม่ถึงปีครึ่ง และหากได้รับเลือกเป็น ส.ส.ก็เข้าไปเป็น ส.ส.ของฝ่ายค้าน ไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า ผมทำเพราะปกป้องสิทธิของประชาชน เพื่อไม่ให้หลงเชื่อในคะแนนนิยมผิดไป โครงการนี้เป็นโครงการที่เป็นไปไม่ได้ เพราะผู้สมัครรายนี้ไม่สามารถไปฉีกหรือยกเลิกสัญญาของสัมปทาน และไม่สามารถชดเชยเงินส่วนต่างของสัมปทานได้ จึงเป็นการโฆษณาที่เกินจริง ส่วนถ้าผู้สมัครคนดังกล่าวจะฟ้องกลับก็ฟ้องได้เลย มาพิสูจน์มาชี้แจงกับ กกต.เลย เพราะไม่มีอำนาจและหน้าที่ที่จะไปยกเลิกสัมปทาน อย่าหาเสียงเกินความเป็นจริง”
นายสิระ ยังกล่าวว่า บ่ายวันนี้จะทำหนังสือถึง กกต.เกี่ยวกับการปราศรัยของผู้สมัครรายหนึ่ง ซึ่งได้ข่าวว่ามีการทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพราะมีการจ้างเหมารถสองแถวขนคนไปฟังการปราศรัย ในวันที่ 28 มกราคม จึงอยากให้ กกต.จับตามองว่าเป็นจริงหรือไม่ และตรวจสอบว่ารถสองแถวใครเป็นคนจ้าง ส่วนของพรรคพลังประชารัฐจะไม่จัดเวทีปราศรัยใหญ่ เพราะเราจะเน้นพูดคุยกับประชาชนชาวหลักสี่และจตุจักร ว่า 3 ปีที่ผ่านมาเราช่วยเหลือและเคียงข้างประชาชนไว้อย่างไร และจะสานงานต่ออย่างไร เพื่อให้ประชาชนพ้นวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจได้อย่างไร
ทั้งนี้ นายสิระ ยังมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ นางสรัลรัศมิ์ จะชนะการเลือกตั้งครั้งได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะคนที่ทำให้ตนได้เป็น ส.ส.ครั้งที่แล้ว คือ นางสรัลรัศมิ์ และตอนนี้เขาสมัครเองเขาต้องชนะอยู่แล้ว และประชาชนรักนางสรัลรัศมิ์ ที่อยู่ข้างประชาชนมา 3 ปีเต็มๆ