“เสี่ยหนู” พาลูกพรรคยื่นร่าง “พ.ร.บ.กัญชา กัญชง” ให้ “ชวน” วอน ส.ส.- ส.ว.ช่วยผลักดัน ขอ ปชช.รอไม่เกิน 120 วันถอดพ้นบัญชี “ยาเสพติด” บรรลุตามสัญญาที่ให้ไว้ “พูดแล้วทำ” เน้นลุยสร้างมูลค่าทาง ศก. ต่อยอดรักษาโรค
วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เข้ายื่นร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระในสภาผู้แทนราษฎร
โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้มี ส.ส. แทบทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนถ้าเป็นส.ส. แล้วเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่มีฝ่าย มีแต่ผู้แทนปวงชนชาวไทย ร่วมลงรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมาย สำหรับเหตุผลที่เสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเนื่องจากภายใน 120 วันหลังมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษากัญชา กัญชง ที่ผลิตในประเทศไทย จะไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป และไม่อยู่ใน พ.ร.บ.ยาเสพติด ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แล้ว เนื่องจากยังมีความห่วงใยจากนักวิชาการ ภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงาน และเกรงว่าจะมีการนำกัญขาไปใช้ในทางที่เป็นโทษต่อประชาชน และเยาวชน ซึ่งจะขัดต่อเจตนารมณ์ของข้อตกลงนานาชาติ ในการควบคุมการใช้กัญชา ที่กำหนดให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์เท่านั้น ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.จึงอยากให้ออกกฎหมายกำลับการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง เป็นการเฉพาะเพื่อพ้นจากบัญชียาเสพติดแล้ว เหมือนกับกกฎหมายกระท่อม
ส่วนหลักการและเหตุผล คือ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กัญชา กัญชงเป็นพืชที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ พัฒนาภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย ให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนจากการปลูก การผลิต การขายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง รวมทั้งสารสกัด ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทั้งพืช และผลิตภัณฑ์จากกัญชากัญชง และคุ้มครองประชาชน ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายจากการบริโภคกัญชา กัญชงและป้องกันการใช้กัญชา กัญชงในทางที่ผิด
“พรรคภูมิใจไทยแสดงให้เห็นว่าพูดแล้วทำ เพื่อประโยชน์ของประชาชน จึงอยากขอเชิญชวนให้ ส.ส.ทุกพรรคการเมือง และส.ว. ร่วมกันศึกษาพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชง กัญชา ของพรรคภูมิใจไทย ให้ออกมาบังคับใช้ให้เร็วที่สุด ส่วนประชาชนที่จะปลูกกัญชาขอให้รอ 120 วันตามที่ ป.ป.ส.กำหนดไว้ก่อน” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงรายละเอียดของกฎหมายที่ต้องรอ 120 วัน เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยว่ากัญชายังเป็นยาเสพติดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการตีความ ถ้าอ่านตามตัวหนังสือแล้วมีการตีความชัดเจนว่าประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ถือเป็นกฎหมายหลัก ดังนั้น ประกาศใดๆ ก็ตามไม่มีศักดิ์และสิทธิเหนือกว่ากฎหมายใหญ่ ซึ่งคนตรากฎหมายก็ตีความอย่างหนึ่ง ส่วนคนใช้กฎหมายก็ตีความอีกอย่าง นี่คือ เหตุผลที่เราต้องทำกฎหมายกัญชา กัญชง โดยเฉพาะ เพราะเมื่อเรามั่นใจว่ากัญชา กัญชงไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป จะต้องได้รับความสนใจ เป็นพืชเศรษฐกิจ เป็นทางเลือกของประชาชนด้วยมูลค่าเป็นแสนล้าน เราจึงต้องมีกฎหมายมากำกับดูแลพืชนี้โดยเฉพาะ ให้เกิดความชัดเจน ไม่ต้องตีความ
“ใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง อีกไม่นานพวกเราจะไม่คิดว่ากัญชา กัญชง เป็นยาเสพติดอีกต่อไป เมื่อเขาให้คุณประโยชน์อย่างมากมาย ไม่มีใครอยากจะหันไปใช้ในส่วนที่เป็นโทษ เรามีความมั่นใจเช่นนั้น มนุษย์ทุกคนเป็นแบบนี้” นายอนุทิน กล่าว