“แรมโบ้” ฟาด “พ่อโอ๊ค” เคลมผลงาน “ลุงตู่” แบบหน้าไม่อาย เผย นายกฯ สั่งกรมปศุสัตว์-กรมการค้าภายใน ตรวจสอบเรื่องกักตุนหมูตั้งแต่ 14 ม.ค. แต่ “ทักษิณ” เพิ่งมาพูดเมื่อ 18 ม.ค. แนะหยุดหาแสง หันหน้าหาธรรมะเสียบ้าง
วันนี้ (21 ม.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ ได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ว่า เหลือเชื่อที่ลุงตู่ไม่รู้ไม่เห็นว่ามีห้องเย็นกักตุนเนื้อหมูหลายแสนกิโล แถมยังแนะนำคนไทยให้ไปกินเนื้ออื่น จนคุณพ่อผมต้อง Work from Dubai โดยพูดชี้เป้าใน ClubHouse จึงได้มีการบุกไปตรวจสอบ และอายัดเนื้อหมู่ที่กักตุนไว้กว่า 2 แสนโล คราวหน้าบริหารประเทศมีปัญหาปรึกษาโทนี่ นะลุง
นายเสกสกล กล่าวว่า กรณีการเข้าดำเนินการเข้าตรวจห้องเย็นนั้นเป็นผลมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกทางด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์ เข้าพบตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 เพื่อกำชับการแก้ปัญหาเรื่องของราคาหมูแพงทั้งระบบ ระหว่างกรมปศุสัตว์ และกรมการค้าภายในของกระทรวงพาณิชย์ หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งดำเนินการในการตรวจสอบ จนพบว่ามีการกักตุนเนื้อหมู ส่วนที่ นายโอ๊ค บอกว่า พ่อเป็นผู้ชี้เป้านั้น นายทักษิณ พูดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ดังนั้น อยากจะถามว่าตกลงแล้ว ใครกันแน่ที่เดินหน้าแก้ปัญหานี้ ใครกันแน่นั่งเคลมผลงานของรัฐบาล นั่งเคลมผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉกฉวยทุกอย่างเพื่อเล่นการเมือง อยู่ตลอดเวลา โอ๊คเคยรู้ไหมว่า พ่อโอ๊คเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจมากที่สุด เพราะอะไร เพราะพ่อโอ๊ค เป็นคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง สามารถที่จะอ้างทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้องอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าการอ้างนั้นจะต้องทำร้ายใครไปกี่คน แต่พ่อโอ๊คไม่เคยสนใจ ที่ผ่านมา โอ๊คลองหันกลับไปมองบ้างว่า พ่อโอ๊คทำร้ายใครเอาไว้บ้าง จนเขาเหล่านั้นที่เคยรับใช้พ่อโอ๊คต้องบาดเจ็บล้มตาย ติดคุกติดตาราง แล้วพ่อโอ๊คเคยสนใจไยดีคนเหล่านั้นบ้างไหม
นายเสกสกล ยังกล่าวต่อว่า วันนี้นายทักษิณกำลังกลายเป็นอดีตนายกฯ ที่ถูกลืมไปเรื่อยๆ สิ่งที่ทำได้ก็พยายามหาแสง ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าคนเขาจะรู้กันไปทั่วว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณ ไม่เคยได้สร้างประโยชน์ใดให้สังคมไทยเลย แต่เขาก็ยังกล้าที่จะเคลมทุกเรื่องว่าเป็นผลงานของตัวเอง ถ้านายทักษิณเก่งจริง ก็ลองช่วยยกผลงานที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนมาให้ดูสัก 3 เรื่องได้ไหมว่า ตอนสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเคยทำผลงานอะไรเอาไว้ให้คนไทย ตนเชื่อว่า คนไทยไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า นายทักษิณ เคยทำประโยชน์ใดให้กับประเทศ แต่คนไทยจำได้ขึ้นใจว่า นายทักษิณ และน้องสาวหนีคดีทุจริต ไปอยู่ต่างประเทศ อันนี้แหละคือผลงานชิ้นโบแดงของนายทักษิณ
ดังนั้น เวลานี้นายทักษิณไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะมาอ้างโน้นนี่ หรือจะมาเคลมผลงานของรัฐบาล และผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มุ่งจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชน อยู่ตลอดเวลา ไม่สนใจเรื่องการเมือง เสียงที่นายทักษิณพูดมาทุกอาทิตย์นั้น กลายเป็นเสียงที่หาประโยชน์ใดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำไปก่อนหน้าแล้วทั้งสิ้น นายทักษิณ จึงค่อยมาพูดตามหลัง แล้วก็เคลมผลงาน แบบไร้ยางอาย
“ขอร้องเถอะ เลิกหาแสง แล้วก็หันหน้าหาธรรมะเสียบ้าง อายุก็มากแล้ว หยุดพูดบ้างก็ได้ เพราะที่พูดมาก็เหมือนตาแก่พร่ำเพ้อ หาประโยชน์ใดไม่ได้เลย ดังนั้น การหยุดพูด จะเป็นการช่วยประเทศได้อีกทางหนึ่ง” นายเสกสกล กล่าว