xs
xsm
sm
md
lg

“อุตตม-สนธิรัตน์” เปิดใจตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ลั่นร้างการเมือง 1 ปี ต้องการเห็นการเมืองเปลี่ยนแปลงให้ประเทศเดินหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย คึกคัก! นักการเมืองหลายขั้วร่วมแจม “อุตตม” ลั่นทำการเมือง ไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง “สนธิรัตน์” โวยังมีคนหนุนหลังอีกมาก ยังไม่อยากเปิดตัว ยันไม่ใช่พรรคของนักการเมือง แต่เป็นของทุกภาคส่วน

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน นัดแถลงข่าวเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ในชื่อ พรรคสร้างอนาคตไทย

โดยมีนักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ เข้าร่วม อาทิ นายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, นายสันติ กีระนันทน์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.พัทลุง นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ อดีตผู้อำนวยการ สทบ. ซึ่งเป็นเลขาธิการส่วนตัว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า, นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือ นายสะอาด นักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนงานจะเริ่ม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้แค่เดินทางมาร่วมงานตามคำเชิญ แต่ยังได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทยในวันนี้

ก่อนเริ่มงานได้มีการเปิดวีดิทัศน์ ฉายภาพปัญหาของประเทศ ตั้งแต่โควิด น้ำมันแพง รวมถึงปัญหาความขัดแย้งการเมืองบนถนน สภาล่ม และระบุถึง ความสิ้นหวัง สูญเสียโอกาสของคนไทย

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้เรามาประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างอนาคตไทย และจะไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมือง แต่เป็นพื้นที่เปิดรวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพในทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย ร่วมระดมความคิดเห็น ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ

สถานการณ์ประเทศมีความน่าเป็นห่วง ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัญหาปากท้องทำคนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า รายได้คนทำงานถดถอย สวนทางค่าครองชีพที่สูงขึ้น และโรคระบาดโควิด ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด มิติสังคม เมื่อเศรษฐกิจสะดุดลง ปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น กระทบต่อความมั่นคงทางสังคม บั่นทอนคุณภาพชีวิตและความหวังของคนไทย

“ผมและคุณสนธิรัตน์ ตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ที่เราออกจากรัฐบาล เรามีโอกาสพบเจอผู้คนมากมาย ได้รับฟังเสียงสะท้อน ความต้องการที่อยากเห็นสมการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง”

นายอุตตม กล่าวว่า เสียงสะท้อนเหล่านั้น สะท้อนว่า อยากเห็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของประชาชนในหลากหลายภาคส่วน มาระดมกำลังแก้ไขปัญหาประเทศ สร้างอนาคต เพื่อที่เราจะไม่ต้องเผชิญกับความท้อแท้ ความกังวลว่าอนาคตของเราจะไปต่อได้อย่างไร

พรรคสร้างอนาคตไทย ถือกำเนิดจากกลุ่มบุคลากร หลากหลายความรู้ หลากหลายประสบการณ์ และถือหลักการสำคัญที่จะระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งคนจากสายการเมือง ผู้คนที่ไม่พร้อมทำงานการเมืองแต่มีใจที่จะสนับสนุนความคิด เพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศ

เราได้หารือบุคลากรในอดีต ที่ได้แสดงผลงานแล้ว ทั้งในส่วนภาครัฐที่มีส่วนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อดีตรัฐมนตรีก็มี รวมถึงผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จากภาคเอกชน ด้วยหลักการเช่นนี้ เชื่อมั่นว่า จะสามารถผนึกกำลังคนไทยร่วมกันแก้ปัญหา

“ขอเรียนว่า เราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ อาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย ผมขอถือโอกาสนี้ เชิญประชาชนทุกท่านมาสร้างอนาคตไทยด้วยกัน”


นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่วันเปิดพรรค แต่พรรคนี้เกิดขึ้นด้วยสถานการณ์ของบ้านเมือง พวกเรา 2 คน ไม่คิดจะกลับมาทำงานการเมือง คิดว่าเพียงพอแล้วจากการได้ทำงานมาหลายปี แต่จากวิดีทัศน์ และสิ่งที่ นายอุตตม เล่าถึง เราปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานการณ์เหล่านี้ เป็นสถานการณ์ที่ประชาชน ต่างมองหาความหวัง อะไรคือความหวังที่จะพาพวกเขาฝ่าวิกฤตของชีวิต หารือกันเป็นระยะและรู้สึกว่าอาจจำเป็นอีกครั้งที่เราจะต้องอาสาเข้ามามีส่วนร่วม ความหวังของประชาชนคือจุดเริ่มที่สำคัญ

“หากประชาชนขาดแล้วซึ่งความหวัง เราจะเรียกร้องความร่วมมือจากประชาชนไม่ได้ บนวิกฤตของชาติต้องการความหวังและความร่วมมือจากประชาชน นั่นคือจุดเริ่มที่เราเห็นว่าสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจไม่เพียงพอทำสิ่งเหล่านี้”

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาวันนี้เริ่มถลำลึก จากปัญหาการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ ปีท้ายๆ เราเหนื่อยเพราะสถานการณ์ซ้ำเติม สิ่งที่ทำยังไม่ฟื้น ก็เจอสถานการณ์ซ้ำเติม จึงเป็นจุดที่เราตัดสินใจเริ่มพบปะผู้คน พูดคุย แลกเปลี่ยน จนเห็นว่า ยังมีพลังของคนที่ปรารถนาดีต่อชาติ บ้านเมือง เป็นพลังของนักการเมืองที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ ผู้บริหาร ประชาชน และภาคประชาสังคม สิ่งเหล่านี้ทำให้ตัดสินใจร่วมกันว่า มีความจำเป็นอีกครั้ง ที่ประเทศจะต้องมีความหวังอีกหนึ่งความหวัง

“ขอเรียนว่า ไม่มีใครอยากเปิดตัว และมาเสนอตัวทำการเมือง โดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ อดีตข้าราชการ ผู้บริหารภาคเอกชน ยากที่เขาจะเปิดตัวอาสาทำการเมือง แต่ด้วยสิ่งที่เรามุ่งมั่นตั้งใจ ตกผลึกและเห็นร่วมกัน พวกเขาเหล่านี้เป็นเพียงคนชุดแรก ที่จะร่วมแสดงเจตนารมณ์ก่อตั้งพรรค และมีอีกมากที่อยู่ข้างหลัง บางท่านไม่พร้อม บางท่านขอช่วยแบบไม่เปิดเผยตัว จึงยากเหลือเกินกับการเมืองไทยที่มีผู้อาสาออกมา”

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคนี้ไม่ใช่พรรคนักการเมือง แต่มาจากทุกภาคส่วน เรามีผู้นำที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน คนเหล่านี้ไม่เคยคิดจะทำการเมือง แต่พรรคได้รับเกียรติอย่างมาก ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เพราะต้องการทำให้อนาคตของชาวบ้านไม่ใช่เพียงวาทกรรมของนักการเมือง

“พรรคนี้เกิดมาเพื่อแก้ปัญหา ครั้งนี้เป็นปัญหาลงลึก”


กำลังโหลดความคิดเห็น