xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.ชี้คลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ แหล่งระบาดโควิดอันดับ1 พบเปิดเกินเวลาไม่มีใบอนูญาต- ไม่ตรวจ ATKพนง.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค.เผย คลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับทำระบาดอันดับ 1 พบ 7 ร้านหย่อนมาตรการ -14 ร้าน "เชียงใหม่-ขอนแก่น" เปิดไม่ได้รับอนุญาต-เปิดเกินเวลา 3 ทุ่ม ไม่ตรวจ ATKพนง.ทุก 7 วัน ฉีดวัคซีนไม่ครบ

วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า สำหรับคลัสเตอร์อันดับ 1 หลังช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นต้นมา ยังคงเป็นร้านอาหาร รวมทั้งสถานบันเทิงคงจะต้องมีการพูดคุยกันให้ชัดเจนว่าจะมีการผ่อนคลายหรือไม่ โดยมีรายงานสถานบันเทิงกึ่งผับที่เปิดเป็นร้านอาหาร อาทิ คลัสเตอร์ร้านเดอะมูนบาร์ จังหวัดนนทบุรี ร้านฮันนี่ ไนท์จังหวัดเพชรบุรี ร้านแสนคำ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น โดยมีการลงพื้นที่อย่างละเอียดพบว่า สถานบันเทิง 21 แห่ง ที่พบการติดเชื้อมีรายงานไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า ในจำนวนนี้พบว่ามี 7 ร้านที่เป็นสถานบันเทิงที่เปิด โดยที่ผ่านการประเมิน Covid Free Setting ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้ว แต่มีการย่อหย่อนมาตรการไม่ได้กำกับมาตรการและติดตามอย่างเพียงพอทำให้เกิดการติดเชื้อรายงานเป็นคลัสเตอร์ ทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ ยังพบอีก 14 ร้านที่เปิดโดยไม่ได้ขออนุญาต และไม่มีการลงทะเบียนประเมินตนเองตามมาตรการ Covid Free Setting อาทิเช่น ร้านโซนอินเยลโล่ ร้านท่าช้าง ร้านเสี่ยวสันติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ , ร้านดาร์ก บาร์ รีเพลย์ กราวด์ จังหวัดขอนแก่น ร้านพระราม 8 ที่จังหวัดพะเยา ร้านเหล้าจังหวัดชลบุรี ร้านจังหวัดอุบลราชธานี ร้านจังหวัดอุดรธานี และร้านในจังหวัดมหาสารคาม เป็นต้น ซึ่งไม่ได้นำมารายงานตำนิ แต่ถือว่าเป็นการเปิดให้บริการโดยผิดกฎหมาย และไม่ผ่านการประเมินและถึงแม้ว่าจะเป็นร้านที่อยู่ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวและอนุญาตให้มีการเปิดแต่จะต้องเปิดให้บริการถึงแค่เวลา 21.00 น.เท่านั้น

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานปัจจัยการติดเชื้อที่สำคัญของการนำไปสู่การติดเชื้อในร้านเหล่านี้สิ่งสำคัญที่สุด คือเรื่องสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการจัดการระบบระบายอากาศ ไม่มีการจำกัดระยะเวลารับประทานอาหารเช่น ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง แต่พบว่ามีการนั่งรับประทานอาหารเกินเวลา รวมถึงไม่จำกัดคนเข้าใช้บริการ นอกจากนี้ไม่มีการคัดกรองความเสี่ยงของผู้ให้บริการหรือพนักงานในร้านมีการกระทำผิดตั้งแต่พนักงานฉีดวัคซีนไม่ครบ บางร้านไม่สามารถแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนของพนักงาน ไม่ตรวจ ATK พนักงานทุก 7 วันอย่างที่กำหนด และมีบางร้านไม่มีการตรวจสอบประวัติพนักงานว่าได้ไปในพื้นที่เสี่ยงมาหรือไม่ ซึ่งพนักงานบางร้านมีประวัติเสี่ยงสูงก็ยังมาทำงานที่ร้าน และไม่มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ ไม่มีการทำความสะอาดร้านอาหาร เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องขอฝากให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวด้วยว่าถ้าหากเราเป็นลูกค้าเราจะเข้าไปใช้บริการหรือไม่ ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาในวันที่ 20 ม.ค.นี้ เพราะหากจะเปิดก็จะต้องปลอดภัยด้วย.


กำลังโหลดความคิดเห็น