ชำแหละศักดินา 3 นิ้ว แบ่งเกรด 5 ชนชั้น “ตลาดบน-ล่าง” ยัน หุ่นฟาง “ธนาธร” ดับอนาถ! หลักฐาน “ด้อยค่า” มัด หลังเจ้าตัว-คณะ อ้างไม่เคยมีสักคำ “วัคซีนไม่ดี” อยากช่วยก็ยิ่งช้ำ “ดร.นิว” จับโป๊ะ “ช่อ” แถแทน ถูกตอกกลับ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 ม.ค. 65) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความเรื่อง “ชนชั้นศักดินา 3 นิ้ว” ผ่านผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ระบุว่า
“ชนชั้นศักดินา 3 นิ้ว
ปีใหม่ไปพบผู้คนมากมาย ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่หันมาสร้างงานใหม่ ที่เกิดจาก (1) ช่องว่างของ AI และ (2) งานที่เกิดต่อเนื่องมาจากการใช้ AI ของมนุษย์ เลยเพิ่งทราบว่าในกลุ่มเด็ก 3 นิ้ว ก็มีการแบ่งชนชั้นกันเอง ซึ่งก็เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกกลุ่มคนในโลกสีฟ้าใบนี้
1. กลุ่มเด็กที่เข้าสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ในช่วงแรก รวมทั้งกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาออกมา เรียกพวกเขาเองว่า “พวกตลาดบน”
2. กลุ่มตลาดบน ได้เรียกพวกการ์ด หรือกลุ่มที่ใช้จักรยานยนต์ว่า “พวกกลุ่มตลาดล่าง” ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มนี้เพิ่งเข้ามาชุมนุมหลังจากที่ ทอน ช่อ บูด ออกมาตั้งกลุ่มก้าวหน้า และเริ่มมีการใช้คำหยาบโลน และ ความรุนแรงมากขึ้น
3. กลุ่มเสื้อแดง ที่ออกมาชุมนุมหลังสุดในรุ่น ตู่ เต้น และ บก.ลายจุด นั้น พวกตลาดบนก็เรียกพวกนี้ว่า “พวกตลาดล่าง” เช่นเดียวกัน
4. พวกที่ชุมนุมตามเวลาอยู่ตามหน้าศาล ตามหน้าคุก ฯลฯ ถูกเรียกว่า “กลุ่มลูกจ้าง” บ้าง หนักไปอีกก็ถูกเรียกว่า “กลุ่มหุ่นฟาง” ทั้งไม่มีสมองและไร้ประโยชน์ทำนองนั้น
5. กลุ่มที่เป็นสปอนเซอร์ คอยยั่วยุเด็ก โดย work from home นั้น ถูกเรียกว่าเป็น “ชนชั้นศักดินา 3 นิ้ว”
สรุปแล้วเกิดมาในรุ่นนี้ไปร่วมกลุ่มอะไรเข้าก็ถูกแบ่งเกรด เพื่อบ่งบอกตัวตนทุกฝ่ายไป ไม่มีละเว้นครับ เขียนมาเพื่อว่าไปฟังเยาวชนคนรุ่นหลังๆ คุยกันจะได้รู้เรื่อง
การแยกแยะกลุ่มนั้นทำละเอียดลงไปอีก เช่น กลุ่มพ่อแม่มีลูกมาก มีลูกน้อย แต่ไม่อยากเอามาเขียนไว้ครับ ฟังแล้วก็สนุกดี
มันบ่งบอกว่า นอกจากผู้ใหญ่จะตกรุ่นตามไม่ทันแล้ว
แม้แต่เด็กๆ ด้วยกันเองก็ยังงงๆ อยู่เลยครับ” (จากแนวหน้า)
ขณะเดียวกัน จากกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 1 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 เวลา 19.00 น. ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งต่อมามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ฉีดวัคซีน VIP แซงคิวกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว อีกทั้งยังเคยออกมาด้อยค่าโจมตีวัคซีน แต่กลับไปฉีดก่อนคนอื่น
ต่อมา คณะก้าวหน้าชี้แจงว่า “...ธนาธรวิจารณ์วัคซีนแอสตร้า ทำไมถึงไปฉีดแอสตร้า เราขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ธนาธรเป็นคนแรกที่บอกว่า “วัคซีนคือทางออกเดียวของวิกฤตโควิด ประชาชนต้องได้วัคซีนเร็วที่สุด และคุณภาพดีที่สุด” ไม่เคยมีสักคำเดียวที่บอกว่า “วัคซีนไม่ดี” หรือ “ไม่ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน” การที่ธนาธรออกมาทักท้วงการบริหารวัคซีนของรัฐบาล เพราะเชื่อว่าการแทงม้าตัวเดียว เสี่ยงกับแอสตร้าเซนเนก้า (ที่ผลิตในประเทศเป็นครั้งแรก) ยี่ห้อเดียว ทำให้ประชาชนเสี่ยงเกินไป ได้วัคซีนช้าเกินไป....”
ขณะที่ นายธนาธร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ข้อวิจารณ์ของผมเรื่องวัคซีน คือ การจัดหาแบบแทงม้าตัวเดียว ที่มีข้อผิดพลาด จนทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการด้อยค่าวัคซีน”
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ ในทวิตเตอร์ของนายธนาธร ซึ่งโพสต์ไว้เมื่อ 22 ก.ค. 2564 มีข้อความระบุว่า “ยอมรับผิดเรื่อง COVAX หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 9 เดือน แล้วเมื่อไรจะยอมรับผิดพลาดเรื่องแทงม้าตัวเดียว ที่ทำให้คนไทยได้รับวัคซีนช้า น้อย และไม่มีประสิทธิภาพ ผมจะรอฟังคำแถลงการยอมรับความผิดพลาดอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลและคุณประยุทธ์”
โดยโพสต์นี้ของ นายธนาธร มีผู้ใช้ทวิตเตอร์กดถูกใจกว่า 2 หมื่นครั้ง และรีทวีตออกไปอีกว่า 7 หมื่นครั้ง (จากไทยโพสต์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น ยิ่งพูดยิ่งพัง! ดร.นิว จับโป๊ะ “ช่อ” แถแทน “ธนาธร”...
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีเมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 2565) น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกและกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีดรามา “วัคซีน VIP” ของแกนนำคณะก้าวหน้า
ระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 รัฐบาลกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันดีเดย์ฉีดวัคซีนแห่งชาติ มีการเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์หลายช่องทางล่วงหน้า โดยเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับชาวไทยทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป ในวันที่ 7 มิ.ย. โดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะฉะนั้น ข้อกล่าวหาที่บอกว่า ตนและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แย่งวัคซีนคนแก่ จึงไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง
โดย นายธนาธร ได้เข้ารับวัคซีนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 และตนได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2564 หากดูจากสถิติที่รวบรวมโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ณ วันที่ 15 ก.ค. 2564 ระบุว่า ในจำนวนประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน 50% เป็นประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง ตามด้วยผู้สูงอายุ 20% และคนกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง 7% ส่วนสถิติรายจังหวัด ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 45% ขณะที่สมุทรปราการฉีดไป 24% เพราะฉะนั้น คนที่ฉีดวัคซีนในเดือน ก.ค. จึงเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนกลุ่มใหญ่ที่รับวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล จะเรียกว่าเป็นวีไอพี หรือ แซงคิวใครไม่ได้
ล่าสุด วันนี้ (11 มกราคม 2565) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า
“คุณช่อ Pannika Chor Wanich ออกมาแถปกป้องนายธนาธร ทั้งที่ ก็แถได้ราคาถูกมากเหมือนเดิม
1. คุณช่ออ้างว่า รัฐบาลมีการเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับวัคซีนในหลายช่องทางล่วงหน้า แต่นายธนาธรเข้าไปรับวัคซีนแบบ walk-in
2. คุณช่อแถว่า นายธนาธรไม่ได้เป็นวีไอพีหรือแซงคิวใคร แต่ ผอ.รพ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ ได้ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ ว่า เป็นการโทร.ตามให้นายธนาธรมาฉีด แต่ไม่ทราบว่าชื่อของนายธนาธรมาได้อย่างไร
3. คุณช่อไม่พูดความจริงที่ว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ถูกจัดให้เป็นวัคซีนหลักสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังในห้วงเวลาดังกล่าว
4. คุณช่อออกมาแถด้วยการอ้างข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนที่รวบรวมโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของวันที่ 15 ก.ค. 64 แต่นายธนาธรแอบไปฉีดวัคซีนวันที่ 1 ก.ค. 64
5. คุณช่อเพิกเฉยต่อความขาดแคลนวัคซีนของ รพ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ ในห้วงเวลาที่นายธนาธรแอบไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งมีปริมาณไม่เพียงพอต่อผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จนกระทั่งต่อมามีการเลื่อนนัดฉีดวัคซีนเกิดขึ้นในที่สุด
6. คุณช่อไม่เอ่ยถึงความจริงที่นายธนาธรไม่ได้เข้ารับวัคซีนตามขั้นตอนปกติ โดยนายธนาธรไม่ได้ไปนั่งต่อคิวเพื่อรับวัคซีนที่สนามฉีดวัคซีนในเวลาปกติเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป แต่นายธนาธรเข้ามารับวัคซีนแบบพิเศษที่ รพ.ดังกล่าว นอกเวลาราชการ ในเวลา 19.15 น.
7. คุณช่อไม่พูดถึงความจริงที่บ้านของนายธนาธรอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่กลับย่องไปฉีดถึง รพ.เล็กๆ ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแย่งวัคซีนจากคนในพื้นที่ เพราะการฉีดวัคซีนในห้วงเวลาดังกล่าวกำลังมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยงของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
8. คุณช่อปกป้องนายธนาธร ว่า ไม่ได้แย่งวัคซีนคนแก่ แต่บรรยากาศของสนามฉีดวัคซีนในวันที่ 1 ก.ค. 64 เต็มไปด้วยคนแก่ ซึ่งก็คือบรรดาผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เป็นคนในพื้นที่และได้ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนตามปกติ
9. เมื่อไหร่คุณช่อจะหยุดโกหกบิดเบือนเพื่อช่วยเหลือนายธนาธรเสียที? ครั้งก่อนคุณช่อก็ออกมาโกหกประชาชนเพียงเพื่อปกป้องนายธนาธรได้อย่างหน้าตาเฉยว่า ระยะเวลาขั้นต่ำของสัญญาที่นายธนาธรทำกับบริษัทล็อบบี้ยิสต์ APCO คือ ระยะเวลา 6 เดือน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว คือ 1 เดือนเท่านั้น
10. คุณช่อเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ? ทำไมถึงเป็นเดือดเป็นร้อนจนต้องออกมาแก้ตัวแทนสามีของคุณรวิพรรณได้ตลอดทุกครั้ง?
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ การออกมาเคลื่อนไหวแก้ตัวช่วย นายธนาธร ทั้งคณะก้าวหน้า ช่อ และแม้แต่ นายธนาธรเอง ถือว่า ล้มเหลวไม่เป็นท่า และถูกยันกลับด้วยหลักฐานที่มีน้ำหนักน่าเชื้อถือกว่าทั้งนั้น
พูดได้ว่า ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่นเข้าไปเท่านั้น ต่อให้แถเก่งแค่ไหนก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะอย่าล่มว่า ช่วงนั้น นายธนาธร จัดชุดใหญ่ใส่วัคซีนรัฐบาล แบบชนิดไม่คิดว่า กรรมจะตามมาทันเร็วขนาดนี้
คำเดียวที่เห็นตรงกันก็คือ งานนี้ “ธนาธร ดับอนาถ!”
ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าดูจากที่ “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ชำแหละชนชั้น “3 กีบ” ก็ยิ่งเห็นทั้งขบวนการ 3 นิ้ว ว่า ไม่ได้มีความเสมอภาค เท่าเทียม แต่อย่างใด ทำให้สิ่งที่ ขบวนการ 3 นิ้ว ต่อสู้มาทั้งหมด ก็แค่ลิเกโรงใหญ่ใช่หรือไม่ เพื่อหวังหลอกใช้เด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้ออกมาต่อสู้กับสถาบันฯแทนตัวเอง และติดคุกแทนอยู่ในเวลานี้ โดยที่ “ศักดินา 3 นิ้ว” ยังคงลอยนวลเหนือปัญหา ดวดไวน์สั่งการอยู่ในห้องแอร์ แถมรักตัวกลัวตายกว่าใครอย่างเห็นได้ชัด
เช่นนี้แล้ว ถ้าใครยังหน้ามืดตามัว มองไม่เห็นธาตุแท้ของคนเหล่านี้ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมก็แล้วกัน!?