xs
xsm
sm
md
lg

“เรือดำน้ำ” ลำ 2-3 รอไปก่อนนะจ๊ะ “ลุงตู่” ขอเหล่าทัพจัดงบฯ เบาได้เบา “บิ๊กเฒ่า” จำต้องเปลี่ยนแผน **สีสันจับสลากเลือกตั้งซ่อม “เพชร กรุณพล” พรรคก้าวไกล ผิดหวัง จับได้เบอร์ 6 เลยอดชู 3 นิ้ว!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“เรือดำน้ำ” ลำ 2-3 รอไปก่อนนะจ๊ะ “ลุงตู่” ขอเหล่าทัพจัดงบฯ เบาได้เบา “บิ๊กเฒ่า” จำต้องเปลี่ยนแผน

ประเด็นเหล่าทัพโดยเฉพาะเรื่องของ “งบประมาณ” ที่หลังจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีคำสั่งให้เหล่าทัพจัดทำงบฯ 2566 ตามลำดับความเร่งด่วน เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปตามเหมาะสม ทำให้เกิดกระแสตามมาถึง โครงการอภิมหาโปรเจกต์ของเหล่าทัพ จะถูกเบรกไปด้วยหรือไม่

หนึ่งในนั้นมีงบฯ “เรือดำน้ำ” ลำที่ 2 และ 3 ของกองทัพเรือ วงเงิน 22,500 ล้าน น่าจะถูก “แจ๊กพ็อต”

งานนี้ นายกฯออกตัวเป็นนัย คล้ายส่งสัญญาณถึงบรรดาเหล่าทัพทั้งหลายอาจไม่ได้ดั่งใจในทุกโครงการที่ร้องขอทั้งหมด ทำนองจัดงบฯ กันเบาได้ก็เบา

แน่นอนว่า นายกฯ ออกตัวมาซะขนาดนี้ หากบรรดาผู้นำเหล่าทัพดึงดันจะจัดงบฯ ตามใจฉันก็ดูจะฝืนกระแสสังคม ที่กำลังเผชิญผลกระทบจากโรคระบาด เศรษฐกิจปากท้องประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส อะไรจะสำคัญกว่ากัน ? ทั่นนายพลทั้งหลายย่อมคิดได้เอง

หากจำกันได้ กรณีการเสนอจัดซื่อ “เรือดำน้ำ” ครั้งแรกของกองทัพเรือ กว่าจะผ่านมาก็รากเลือด ถูกจับจ้องและเป็น “ดรามา” ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนัก มาถึงปีนี้ ถ้ายังเดินหน้าจัดงบฯ ซื้อต่อ เชื่อขนมกินได้ กองทัพเรือ และรัฐบาลจะถูกถล่มอีกครั้งแหงแซะ

พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย
ว่าแล้ว “บิ๊กเฒ่า” พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. ที่ตอนแรกก็กึ่งรับสภาพ กึ่งๆ แทงกั๊ก โดยกล่าวถึงกระแสข่าวกองทัพเรือจะชะลอการซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2-3 ว่า อยู่ระหว่างการประเมิน ขอให้ใจเย็นๆ ยอมรับว่า มีข้อจำกัดเยอะ ซึ่งเรามีเรือดำน้ำลำที่ 1 แล้ว ดังนั้น ลำที่ 2 และ 3 ก็ต้องมา แต่จะมาเมื่อไหร่ ก็ต้องว่ากันไป

ตามด้วยเสียงโอดครวญ เมื่อถามว่า กองทัพเรืออยากได้หรือไม่ ก็ตอบได้ว่า เราอยากได้ ที่เสนอไปแล้วถูกตีตกรวม 3 ปี งบฯทร. ถูกตัดไปกว่า 8 พันล้าน ฟรีๆ ทำให้งบของ ทร. ลดลงไปเรื่อยๆ กระทบต่อแผนพัฒนากองทัพ แถมประเทศเพื่อนบ้านมีแล้ว 2 ลำ ก็ต้องปรับในเรื่องการหาเรือไปปราบเรือดำน้ำแทน

ต่อมา “พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน” โฆษกกองทัพเรือ ออกมากล่าวยืนยันว่า กองทัพเรือจะไม่เสนองบประมาณซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และที่ 3 ในปีงบฯ 2566 แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ทำให้ กองทัพเรือได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการมีหนี้ผูกพันเดิมค่อนข้างมาก กองทัพเรือจึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างสมเหตุสมผล ต้องรักษาสมดุลของ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยผู้บัญชาการทหารเรือ มีนโยบายที่จะนำงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในส่วนของกองทัพเรือ ไปเน้นใช้ในการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจัดการด้านสวัสดิการของกำลังพล โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อย

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
อย่างไรก็ตาม ก็ทิ้งท้ายไว้ว่า กองทัพเรือยังมีความจำเป็นในการมีเรือดำน้ำ เพราะเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ ที่เป็นหลักประกันอธิปไตยและความมั่นคงทางทะเลของไทย เพียงแต่ต้องรอเวลาที่เหมาะสม

โฆษกกองทัพเรือ ขอให้เชื่อมั่นในกองทัพเรือ เพราะตระหนักดีว่างบประมาณที่ ทร.ได้รับเป็นภาษีของประชาชน ในการพิจารณาดำเนินการเรื่องใดๆ จะดำเนินการตามเหตุผลความเป็นจริงที่สามารถอธิบายได้ โดยจะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

สรุปว่า งานนี้ กองทัพเรือขอชะลอเอง ขณะที่ “โจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เคย “กัดติด” เรือดำน้ำในสภาฯมา ก็ยอมรับว่า การที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ไม่ของบฯซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ในปีงบประมาณ 2566 ต้องขอขอบคุณจริงๆ เข้าใจว่า เห็นประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศชาติ ที่กำลังอยู่ในช่วงของปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์ที่งบประมาณมีจำกัด

เป็นอันว่า เรือดำน้ำ ลำ 2-3 ก็ต้องรอไปก่อนนะจ๊ะ


**สีสันจับสลากเลือกตั้งซ่อม “เพชร กรุณพล” พรรคก้าวไกลผิดหวัง จับได้เบอร์ 6 เลยอดชู 3 นิ้ว!!

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต 9 กรุงเทพฯ แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจาก “สิระ เจนจาคะ” อดีต ส.ส. ต้องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้สิ้นสมาชิกภาพ ...บรรยากาศคึกคักมาก ผู้สมัครของแต่ละพรรคขนกองเชียร์มาประชันกันแบบไม่กลัวโควิด “โอมิครอน” ที่กำลังแพร่ระบาด

ส่วนใหญ่แล้วจะมาถึงสำนักงานเขตหลักสี่ ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครกันตั้งแต่เช้า เมื่อถึงเวลา 08.30 น. เปิดรับสมัคร จึงต้องมีการจับสลาก เพื่อจะได้หมายเลขประจำตัวไปใช้ในการหาเสียง ซึ่งสีสันก็อยู่ตรงจับสลากนี่แหละ ว่า เมื่อได้หมายเลขมาแล้ว จะถือว่าถูกโฉลก โชคดี อย่างที่ใจต้องการหรือไม่ จะได้หาเหตุผลมาอธิบายเพื่อเป็นกำลังใจกัน

ผู้ที่ได้จับสลากเป็นคนแรก คือ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” ผู้สมัครจากพรรคกล้า จับได้หมายเลข 2 เป็นหมายเลขประจำตัว ...จากนั้น “น.ส.กุลรัตน์ กลิ่นดี” พรรคยุทธศาสตร์ชาติ จับได้หมายเลข 4 ...“นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม” พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้หมายเลข 5... “นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์” พรรคไทยภักดี ได้หมายเลข 1... “นายสุรชาติ เทียนทอง” พรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 3 “นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” พรรคพลังประชารัฐ ได้หมายเลข 7 และ “นายกรุณพล เทียนสุวรรณ” พรรคก้าวไกล ได้หมายเลข 6

สุรชาติ เทียนทอง
“พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์” ที่ได้หมายเลข 1 นั้น “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี บอกว่า นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่พรรคจะสามารถปักธง ได้ ส.ส.จากเขตเลือกตั้งนี้เป็นที่แรก... แต่ถ้าจับได้หมายเลข 3 ก็จะดีมาก เพราะหมายถึง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ !!

“อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” ผู้สมัครจากพรรคกล้า ชูสองนิ้วรับหมายเลข 2 สู้ สู้... บอกว่า ความจริงแล้ว ตนรู้จักพื้นที่หลักสี่และจตุจักร เป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นผู้แทนที่นี่ ตั้งแต่ปี 2550 และปี 2554 ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอด และครั้งนี้ก็มั่นใจว่าสามารถชนะเลือกตั้งได้ แม้จะสังกัดพรรคกล้า ซึ่งเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ก็ตาม

“ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีมากที่ “สุรชาติ เทียนทอง” ผู้สมัครของพรรค จับได้หมายเลข 3 เพราะเป็นเลขที่อยู่ในกระแส ประชาชนจดจำได้ง่าย และ “สุรชาติ” ก็ถือว่าเป็นแชมป์เก่าของเขตนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้มาทวงแชมป์คืน

กรุณพล เทียนสุวรรณ
“เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หัวหน้าพรรค ไทยศรีวิไลย์ บอกว่า อยากให้ นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม ได้หมายเลข 2 จะได้ชูสองนิ้ว หมายถึงชัยนะ แต่ได้หมายเลข 5 ก็ถือว่าเป็นเลขที่อยู่ในใจเช่นกัน หวังว่าบรรดาวินมอเตอร์ไซค์ จะออกมาช่วยกัน

“กรุณพล เทียนสุวรรณ” จากพรรคก้าวไกล ได้หมายเลข 6 บอกว่า จริงๆ แล้วอยากได้เบอร์ 3 มากกว่า เวลาไปหาเสียงจะได้ชู 3 นิ้ว ซึ่งเป็นเหมือนสัญญลักษณ์ของพรรคก้าวไกล และกลุ่มแนวร่วม แต่เมื่อได้หมายเลข 6 ก็ถือว่าเป็นเลขมงคล เวลาไปหาเสียงก็ปรับมาเป็นชูมือทั้งสองข้าง ข้างละ 3 นิ้ว ก็ได้

สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ
“มาดามหลี” สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ ได้หมายเลข 7 บอกว่า เลข 7 เป็นเลขนำโชคส่วนตัว เพราะเกิดวันที่ 1 เดือน 7 ปี 1971 และปีนี้เป็นปีเสือ ก่อนจะเริ่มต้นหาเสียงอย่างเป็นทางการ ก็จะไปกราบขอพร “หลวงปู่เสือ” ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง เคารพบูชา ขอให้ช่วยดลบันดาลให้ได้กลับมาเป็น ส.ส.เขตหลักสี่ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนแทน นายสิระ เจนจาคะ และจะบนด้วยผลไม้ 9 อย่าง และไข่ต้ม 999 ฟอง

หลังจากได้หมายเลขประจำตัวแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกเพียง 24 วัน ในการหาเสียง เสนอตัวให้ประชาชนตัดสินใจ แล้ววันที่ 30 ม.ค.ที่เป็นวันเลือกตั้ง ก็จะได้รู้ว่าหมายเลขใดเข้าวิน!!




กำลังโหลดความคิดเห็น