xs
xsm
sm
md
lg

“หญิงหน่อย” หวังดันนโยบาย “บำนาญประชาชน” ชูตอบโจทย์สังคมสูงอายุ ลดเหลื่อมล้ำ-กระตุ้น ศก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย
“สุดารัตน์” ปธ.ไทยสร้างไทย ชูนโยบาย “บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน" เป็นของขวัญคนไทย ตอบโจทย์สังคมสูงอายุ ลดเหลื่อมล้ำ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ พร้อมสร้างศูนย์สร้างสุขภาพของผู้สูงวัย ลดภาระรักษา 3 โรคสำคัญ

วันนี้ (3 ม.ค.65) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan” ในหัวข้อ "นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน" ของขวัญปีใหม่ ที่พรรคไทยสร้างไทย ตั้งใจมอบให้แก่”ผู้สูงอายุ” ที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพทุกคน

โดยระบุข้อความว่า เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่ "สังคมผู้สูงวัย" ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผู้สูงอายุมากขึ้น และส่วนใหญ่ประสบปัญหา "แก่ก่อนรวย" มีรายได้ไม่พอรายจ่าย ดังนั้น "นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน" จะเข้ามาตอบโจทย์ทั้งผู้สูงอายุให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ แทนที่ “เบี้ยผู้สูงอายุ” ที่ผู้สูงอายุได้เพียงน้อยนิด ไม่เพียงพอในการครองชีพอย่างมีคุณภาพอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

โดยนโยบายบำนาญประชาชน จะเป็นการตอบแทนผู้สูงอายุที่ได้ทำงานมาตลอดชีวิต ให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระของลูกหลานในการเลี้ยงดูพ่อแม่ของตน ให้มีเงินเหลือเพียงพอที่จะดูแลครอบครัวของตัวเอง ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ทำให้คนวัยทำงานหารายได้ยากขึ้น

นอกจากนั้น เงินบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000บาท ที่ให้แก่ผู้สูงอายุ จะเป็นการทำให้เกิดกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เป็นการการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้กลับมา

พรรคไทยสร้างไทย สร้างนโยบายนี้เพื่อเตรียมรองรับโครงสร้างประชากรไทย ที่เปลี่ยนเป็น สังคมผู้สูงวัย จากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 พบว่า จำนวนประชากรผู้สูงอายุมีทั้งหมด 11.62 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.57 ของประชากรไทยทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นไทยกำลังจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) ในปี 2565 และคาดว่าจะเข้าสู่ ไทยน่าจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเข้าหา 20% ในปี 2574 (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมที่จะดูแลผู้สูงวัยให้แข็งแรง เราจะปล่อยให้ประเทศไทยมีแต่คนแก่ที่อ่อนแอ และยากจนอย่างในปัจจุบันไม่ได้แล้ว เพราะจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
ของผู้สูงวัยและครอบครัว ตลอดจนจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทย จึงได้สร้างนโยบาย “บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท”
ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ผู้สูงอายุได้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท จะต้องเข้าโปรแกรมการสร้างสุขภาพ ที่พรรคไทยสร้างไทย จะจัดทำขึ้นโดยผู้สูงอายุต้องไปสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ที่ศูนย์สร้างสุขภาพของผู้สูงวัย จะมีการฝึกสมองไม่ให้ฝ่อ มีความจำที่ดี ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมีแรงทั้งแขนและขา และมีกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีจิตใจที่เบิกบาน

โดยตั้งเป้าที่จะลดโรคสำคัญของผู้สูงอายุทั้งความดันสูง ไขมันสูง และเบาหวาน ซึ่งทั้ง 3 โรคทำเกิดโรคที่ร้ายแรงตามมาทั้งโรคหัวใจอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นต้น

เมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย เราต้องทำให้ผู้สูงอายุของเราแข็งแรง ทั้งสมอง กาย ใจ เพื่อที่ผู้สูงอายุของเราจะได้แข็งแรง และสามารถกลับไปทำงาน ทำประโยชน์ให้กับครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไปได้และจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของครอบครัว และประเทศชาติได้อีกด้วย

แต่สำหรับผู้สูงวัยที่ป่วยติดเตียง หรือผู้พิการ พรรคไทยสร้างไทยก็จะดูแลให้สวัสดิการเดือนละ 3,000 บาทเช่นกัน

ดังนั้นโครงการบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทจึงไม่ใช่โครงการประชานิยมหรือประชารัฐ ที่คิดแต่เพียงการแจกเงินให้กับประชาชนเท่านั้น แต่จะเป็นโครงการที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้สูงวัย มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ มีสุขภาพที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้.




กำลังโหลดความคิดเห็น