xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ชมผลงาน สตช.ขอเป็น smart Police ใช้เทคโนโลยีเสริมการทำงาน ระวังอดทนตรวจสอบได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ประยุทธ์” ชื่นชมผลปฏิบัติงาน สตช.บอกเป็นของขวัญปีใหม่นายกฯ และ ปชช. ขอบคุณนำนโยบายรัฐไปสู่การปฏิบัติ ขอตำรวจเป็น smart Police ยุคใหม่ใช้เทคโนโลยี เสริมการทำงาน อดทนอดกลั้น ตรวจสอบได้ ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง

วันนี้ (29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 13/2564 โดยนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง เมื่อเวลา 09.00 น. เข้าถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ ๙ ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเยี่ยมชมนิทรรศการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยเมื่อมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมเปิดกิจกรรมพร้อมรับชมนิทรรศการของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน “มอบความสุขปลอดภัย ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2565” จากใจรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบของขวัญปีใหม่ทั้งในเรื่องของการป้องกันอัชญากรรม Smart safety zone 4.0 / ฝากบ้าน 4.0 /CCTV ระวังภัยเฟส 2 /การอำนวยความยุติธรรมคดีออนไลน์แจ้งความได้ทุกท้องที่ /ส่วนการสืบสวน เน้น ชุมชนยั่งยืนตรวจสอบประวัติออนไลน์/ใช้ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ /รวมถึงเปิดบ้านตำรวจ ให้ส่วนลดโรงแรมที่พักฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อโควิดฟรี ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวปลอดภัย จัดสุภาพบุรุษจราจรจ แอพพลิเคชั่น ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว Tourist Police

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ใช้แอปพลิเคชันนี้ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ก่อนแสดงความภาคภูมิใจ และพอใจในสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สนช.) ว่า สามารถดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลมาโดยตลอด โดยการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจใช้เทคโนโลยี เข้ามาประกอบปฎิบัติ เพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก วันนี้อาชญากรรมมีหลายประเภทหลายวิธีการ แต่ก็ได้เห็นความพร้อมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินการงาน จึงทำให้เกิดความภาคภูมิใจในฐานะที่กำกับดูแล พร้อมขอบคุณที่นำแนวนโยบายไปปฏิบัติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกกิจกรรมที่ทำนั้น ขอให้ทำเพื่อประชาชนให้มีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน คือ งานที่จะต้องทำและปฏิบัติ เป็นทีพึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ดังนั้น สิ่งที่ทำไว้วันนี้ทุกคนจะต้องทำงานด้วยความอดทน อดกลั้น เสียสละ และระมัดระวังตัวอย่างเข้มแข็ง ให้ตนเองปลอดภัยไปด้วย สิ่งสำคัญ วันนี้ มีแต่เพียงความภาคภูมิใจ มีแต่เกียรติยศที่จะให้กลับมาดังนั้นต้องรักษาเกียรติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเกียรติตำรวจในยุคใหม่ หรือ สมาร์ทโปลิศ พร้อมกล่าวว่า การปฎิรูปตำรวจไ้ม่ได้มองเรื่องการบริการอย่างเดียว แต่มองถึงการปฎิบัติใช้เทคโนโลยีมาดำเนินการกับเตุการณ์ปัจจุบัน เพื่อำนวยความสะดวก เกิดความรวดเร็ว จับกุมดำเนินคดีได้รวดเร็ว พร้อมหลักฐานที่ดีปรากฎอยู่ ซึ่งทั้งหมดจึงขอชื่นชมอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ทำงานให้สำเร็จอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตำรวจใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และเผชิญหน้ากับคนร้ายนโดยตรง ดังนั้นต้องระมัดระวังตนเองให้มากและขอให้ทุกคนปลอดภัย ขอบคุณการทำงานในช่วงที่ผ่านมาและตลอดช่วงปีใหม่ที่ทุกคนจะเหน็ดเหนื่อย ส่วนตนเองจะขอความร่วมมือประชาชน ให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกเรื่อง ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ร่วมแก้ปัญหาทั้งอาชญากรรม ทั้งทางเทคโนโลยี ปัญหาจราจร อีกมากมายด้วยด้วยการเป็นหูเป็นตา ช่วยให้งานสำเร็จ ประเทศปลอดภัย เป็นที่เชื่อมั่นของชาวต่างประเทศ ที่กำลังเดินทางมาเยือนประเทศไทย

“ขอบคุณในการทำงาน เป็นของขวัญให้กับนายกฯและนายกฯขอมอบให้กับประชาชนเพื่อให้ทุกคนภาคภูมิใจในศักดิ์ศรี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจทุกคน ที่จะต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกเรื่อง สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตรวจสอบได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับวาระที่น่าสนใจ เน้นไปที่เรื่องการ พิจารณาวินัยตามเรื่องที่มอบหมาย/การพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ขอลาออก /การเลื่อนเงินเดือนประจำปี 2564 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือนในระดับ ส.6 /การขออนุมัติเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายในห้วงที่มิได้ปฏิบัติราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจ จำนวน 20 ราย /การพิจารณาเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เทียบเท่าอธิบดี /การแต่งตั้งอนุกรรมการ ก.ตร. และแนวทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในโลกวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดนเฉพาะ “โอมิครอน” ทำให้ สตช.ต้องเข้มงวดการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน โดยไม่อนุญาตให้สังเกตการณ์เหมือนเช่นเคย แต่กำหนดให้เฉพาะช่างภาพพูลเข้าบันทึกภาพเท่านั้น อีกทั้ง ช่างภาพ สื่อมวลชนทุกคนต้องติดบัตรประจำตัวสื่อมวลชนที่ออกโดยต้นสังกัด หรือบัตรประจำตัวสื่อมวลชนประจำ สตช. ผ่านการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมแสดงหลักฐานการเข้ารับการฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนด พร้อมสวมใส่หน้ากากอนามัย ตลอดระยะเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมฯ




กำลังโหลดความคิดเห็น