วันนี้ (15 ธ.ค.)นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษาการจัดระเบีบยสายสื่อสาร กล่าวว่า ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจชะงักงันหลังวิกฤตโควิด 19 ทำให้ภาครัฐจัดเก็บรายได้ไม่ได้ตามเป้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในขณะที่ธุรกิจเดิมยังต้องอาศัยเวลาฟื้นฟูเยียวยา จึงจำเป็นต้องมีธุรกิจใหม่เข้าเป็นแหล่งรายได้ให้กับภาครัฐ แนวทางหนึ่งที่น่าสนใจและได้รับการขานรับจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างดีคือ การรับหลักการเพื่อตั้ง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการอนุญาตให้สถานบันเทิงแบบครบวงจร ในรูปแบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรวมไปถึงการตั้ง ‘กาสิโน’ ถูก กฎหมายด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาดูความรู้สึกของสังคมจากการสำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ จะเห็นว่า สังคมส่วนใหญ่อาจยังมีความไม่สบายใจในการขานรับแนวทางนี้ ผลการสำรวจระบุ คนไทยมากถึง ร้อยละ 93.70 ระบุว่า ไม่เคยเข้าบ่อนกาสิโน และที่สำคัญส่วนใหญ่มากที่สุด ร้อยละ 46.51 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะเป็นการมอมเมาประชาชน อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว ปัญหาหนี้สิน และปัญหาอาชญากรรม ขณะที่บางส่วนระบุว่า ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธไม่ควรจะมีการพนันแบบถูกกฎหมาย
“เราจะเห็นได้ถึงความเข้าใจที่ยังไม่ตรงกันในตรงนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกและเป็นเรื่องดีที่สังคมไทยจะได้เปิดบทสนทนากันอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องอ่อนไหวต่างๆ เพื่อสร้างวุฒิภาวะ ใช้เหตุผลในการแลกเปลี่ยนกันซึ่งจะเป็นผลดีต่อพัฒนาการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยในอนาคตด้วย ความเห็นไม่ตรงกันสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ต้องเปิดใจให้มีการแสดงเหตุผลของอีกฝ่ายซึ่งอาจนำไปสู่การโน้มน้าวหรือเปลี่ยนแปลงความคิดนำไปสู่นโยบายใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆที่เห็นพ้องต้องกันได้”
นายอริย์ธัช กล่าวต่อไปว่า ตนอยู่ในกลุ่มที่เห็นด้วยกับการเปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย แต่เข้าใจดีถึงข้อกังวลต่างๆ เพราะการพนันในสังคมไทยมีภาพจำที่ไม่ดีนักและมักถูกอธิบายด้วยมิติทางศีลธรรมด้านเดียวมาตลอด จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้กับผลสำรวจกระแสสังคมที่ออกมา แต่ในอีกมุมหนึ่งเราจะเห็นว่าปัญหาที่แท้จริงของการพนันก็คือการซุกซ่อนเอาไว้ไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ เราจึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าผลกระทบต่อสังคมก็ยังคงมี แม้เราจะพยายามไม่พูดถึงการพนันจนเสมือนมันไม่มีอยู่ เพราะความเป็นจริงคือ ยังมีกลุ่มอิทธิพลมาเฟียที่ฉวยโอกาสจากตรงนี้สร้างเครือข่ายจนเจริญเติบโต โดยที่รัฐยังคงต้องเยียวยาและแก้ปัญหาจากผลกระทบ แต่ไม่สามารถแปลงโอกาสมาเป็นรายได้หรือจัดการควบคุมให้อยู่ในระบบได้เลย
“ปัจจุบันการพนันยิ่งง่ายขึ้นและเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การเล่นผ่านสมาร์ทโฟน หรือไม่ก็ออกไปเล่นที่กาสิโนประเทศเพื่อนบ้านซึ่งต้องบอกว่ามีรอบชายแดนบ้านเรา สิ่งเหล่านี้เราสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ เราสามารถควบคุมผู้เข้าเล่นได้ เช่น การกำหนดอายุ หรือ เราสามารถออกแบบสถานที่ให้เอื้อต่อนักท่องเที่ยวมากกว่าการเล่นในชีวิตประจำวัน เราสามารถออกแบบให้เป็นพื้นที่เพื่อผ่อนคลายหรือเปลี่ยนบรรยากาศได้ มีหลายโมเดลเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่เราสามารถศึกษาเพื่อลดผลกระทบทางสังคมให้เหลือน้อยที่สุด แต่สิ่งที่เป็นโจทย์ใหญ่สำหรับผู้ผลักดันนโยบายคือ ต้องสร้างพื้นที่ถกเถียงหรือพื้นที่สนทนาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับจูนมุมมองให้ตรงกัน จึงจะไม่เกิดความขัดแย้งหรือความไม่สบายใจขึ้นในสังคม”
นายอริย์ธัช กล่าวต่อว่า หากกล่าวถึงมุมบวกต่อระบบเศรษฐกิจในฐานะแหล่งรายได้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการธุรกิจการพนันออนไลน์หรือกาสิโนถูกกฎหมาย คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนในธุรกิจนี้นับล้านล้านบาท ซึ่งสามารถออกแบบโครงสร้างภาษีเพื่อนำเงินมาจัดเป็นสวัสดิการสังคมแก่เด็ก ผู้สูงวัย กลุ่มเปราะบาง เงินสนับสนุนการศึกษา กีฬา หรือเพิ่มเติมในระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขของเรามีความเข้มแข็งและยั่งยืนได้