xs
xsm
sm
md
lg

ได้บัตร ปชช.แน่! ปค.เปิดไทม์ไลน์ ปม “โค้ชเช” ได้สัญชาติ ช้า 1 ปี รอ “มท.1” เห็นชอบตามบอร์ดแปลงสัญชาติ ย้ำทำตามขั้นตอน 730 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการปกครอง แจงละเอียดยิบ เหตุล่าช้า 1 ปี “โค้ชเช” ขอแปลงสัญชาติ ยันขั้นตอน “คนต่างด้าวขอแปลงสัญชาติเป็นไทย” ต้องทำตามกรอบ 730 วัน พ่วง พ.ร.บ.สัญชาติ ปี 2508 ม.10(5) ต้องร้องเพลงชาติ-เพลงสรรเสริญพระบารมี ได้ เปิดไทม์ไลน์ โค้ชเช ยื่นสันติบาล 13 ส.ค. เรื่องถึง ปค. 13 ก.ย. เข้าอนุฯกลั่นกรองขอแปลงสัญชาติ 23 ก.ย. รอ “มท.1” ไฟเขียว คาด เสนอ ครม.ตามขั้นตอน ยันได้บัตร ปชช.แน่!

วันนี้ (22 ธ.ค. 64) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ออกเอกสารข่าวให้ข้อมูลกรณีการขอแปลงสัญชาติของโค้ชเช หรือ นายยอง ซอก เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ผลงานล่าสุดเป็นผู้ฝึกสอนนักเทควันโดไทย ซึ่งได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น

โดยโค้ชเชได้ยื่นเอกสารเพื่อขอแปลงสัญชาติไทย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 นั้น กรมการปกครอง ระบุเกี่ยวกับขั้นตอนการขอแปลงสัญชาติไทย โดยคุณสมบัติของผู้แปลงสัญชาติเป็นไทย ตามมาตรา 10 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 กำหนดว่า

1. บรรลุนิติภาวะแล้ว ตามกฎหมายไทยและกฎหมายที่บุคคลนั้นมีสัญชาติตามมาตรา 10(1)

2. มีความประพฤติดี ตามมาตรา 10(2) ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พฤติการณ์ทางการเมือง ยาเสพติด และพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

3. มีอาชีพเป็นหลักฐาน ตามมาตรา 10(3) มีใบอนุญาตทำงาน, มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท/เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือนหรือรายได้ด้วย, มีหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ในรอบปีก่อนปีที่ยื่นคำขอ

4. กรณีทำความดีความชอบเป็นพิเศษต่อประเทศไทย หรือทำคุณประโยชน์ให้แก่ทางราชการ ตามมาตรา 11(1) แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508 ได้รับการยกเว้นคุณสมบัติของผู้ขอแปลงสัญชาติ ตามมาตรา 10(4) ในเรื่องการมีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทยต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ยื่นคำขอ 5 ปี (มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ และใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว)

และตามมาตรา 10(5) มีความรู้ภาษาไทย โดยพูดภาษาไทยและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ (ร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี)

ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินการขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าว รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 730 วัน

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของ “โค้ชเช” กล่าวโดยสรุป คือ นายยอง ซอก เช บุคคลสัญชาติเกาหลีใต้ ได้ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยต่อ กองบัญชาการ ตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งให้กรมการปกครอง ดำเนินการในวันที่ 13 กันยายน 2564 โดยได้นำคำขอเข้าพิจารณาในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564

“ได้นำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวสัญชาติ ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 มติที่ประชุมเห็นควรเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ นายยอง ซอก เช แปลงสัญชาติเป็นไทยได้”

ขณะนี้ กรมการปกครอง อยู่ระหว่างการสรุปเสนอความเห็นให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาต ซึ่งจะได้แจ้งต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากนั้นผู้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจะมาทำพิธีปฏิญาณตนและยืนยันตัวบุคคล

แล้วแจ้งต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศการได้สัญชาติไทยในราชกิจจานุเบกษา และแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบและรับหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทยเพื่อไปดำเนินการเพิ่มชื่อ พร้อมทั้งจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นบุคคลสัญชาติไทยต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น