“เดชอิศม์” คว้าตำแหน่ง “รอง หน.ปชป.” ดูแลภาคใต้ ลั่น พร้อมชนเลือกตั้งซ่อมสงขลา-ชุมพร เชื่อคู่แข่งถล่มเต็มที่ โว เลือกตั้งหน้าทวงคืนเก้าอี้แดนสะตอ ได้ไม่ต่ำกว่า 35 ที่นั่ง ด้าน “ชัยชนะ” รั้งเก้าอี้รองเลขาธิการ แทน “อันวาร์”
วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.25 น. ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 พรรคประชาธิปัตย์ เข้าสู่ขั้นตอนการเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ แทน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ลาออกไป โดย นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้เสนอชื่อ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ขณะที่ นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้เสนอชื่อ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ชิงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ จากนั้นผู้ได้รับเสนอชื่อทั้ง 2 คน ได้จับสลากหมายเลข ซึ่งผลปรากฏว่า นายชินวรณ์ ได้หมายเลข 1 และนายเดชอิศม์ ได้หมายเลข 2 โดยใช้วิธีเข้าคูหากาบัตรลงคะแนน
หลังการลงคะแนนเสร็จสิ้น ผลปรากฏว่า นายเดชอิศม์ ได้คะแนน 58.9 เปอร์เซ็นต์ นายชินวรณ์ ได้คะแนน 39.4 เปอร์เซ็นต์ ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3 เปอร์เซ็นต์ จากองค์ประชุมทั้งสิ้น 350 คน ทำให้ นายเดชอิศม์ ได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคใต้อย่างเป็นทางการ
จากนั้นเป็นการเลือกตั้งรองเลขาธิการพรรค แทน นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ที่ลาออกไป โดยที่ประชุมีมติเลือกนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นรองเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนน 91.9 เปอร์เซ็นต์
นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังได้รับตำแหน่งตนจะทำงานอย่างเต็มที่ มั่นใจจะประสานคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ได้ ขอประกาศว่า จะเอาที่นั่ง ส.ส.ภาคใต้ กลับมาให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต่ำกว่า 35 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้เพียง 22 ที่นั่ง ส่วนการเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดสงขลา เขต 6 และจังหวัดชุมพร เขต 1 ตามมารยาทพรรคพลังประชารัฐ ไม่ควรที่จะส่งผู้สมัครลงแข่ง แต่เมื่อส่งลงแข่ง ตนขอสู้เต็มที่และพร้อมชน เพราะเลือกตั้งซ่อมเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ เชื่อว่า ฝ่ายที่มีอำนาจมากกว่าเรา เขาถล่มเราเต็มที่ แต่มั่นใจว่า ชาวใต้เข้าใจการเมืองช่วงนี้อย่างละเอียดถ่องแท้ จึงคิดว่าตัดสินใจไม่ยากนัก นอกจากนี้ จะชูนโยบายฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมภาคใต้ เพราะแต่ละปีรัฐจัดซื้องบอาวุธเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยทำสงครามอะไร แต่กลับละเลยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ประชาชนเสียชีวิตจากโรคเพราะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ดังนั้น เราจะรณรงค์ในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะใช้ศึกเลือกตั้งซ่อมในการโชว์ฝีมือการเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคใต้เลย ใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า จะทำงานอย่างเต็มที่ แต่เวลาในการเลือกตั้งซ่อมมีระยะเวลาสั้น ก็อาจทำให้เห็นศักยภาพได้ไม่เต็มร้อย อาจจะได้เห็นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์
ถามต่อว่า กังวลหรือไม่ ที่พรรคพลังประชารัฐจะส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 จังหวัด เพราะผลการเลือกตั้งซ่อมอาจซ้ำรอยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะสมัยเลือกตั้งนายก อบจ. พรรคพลังประชารัฐ ก็ส่งผู้สมัครในนามพรรคที่จังหวัดสงขลา และเป็นจังหวัดเดียวที่พรรคพลังประชารัฐส่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ชนะมาได้ ฉะนั้น มั่นใจว่าสู้ได้
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนชัดเจนอยู่แล้วว่าต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเราแพ้ ซึ่งการเลือกตั้งก็เป็นไปตามกลไกของพรรค และยินดีด้วยกับนายเดชอิศม์ และ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ได้ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค แทน นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เท่ากับว่า ทั้งสองคนเข้ามาเป็นจิตอาสาที่จะเดินหน้านำพรรคเพื่อเปลี่ยนแปลงไปตามแนวความคิดของทีมผู้ชนะต่อไป ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่พวกตนต้องสนับสนุนว่าพรรคของเราควรจะเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังยึดมั่นอุดมการณ์และวิธีการของพรรคเป็นจุดหลักของตน และจะรักษาแนวคิดนี้อย่างมั่นคงต่อไป
เมื่อถามว่า แสดงว่า ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่มีความขัดแย้งกันใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในเรื่องกระบวนการทำงานทีมที่ชนะก็ต้องมีความรับผิดชอบโดยตรงกับพรรค และขอให้คิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งจะต้องนำพรรคไปสู่ชัยชนะและเป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุนการทำงาน ทั้งนี้ ตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มานาน ยึดถือพรรคเป็นหลักในการทำงานการเมือง มั่นใจที่เราทำพรรคของเราให้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน โดยส่วนตัวมีหน้าที่เป็นประธานวิปของพรรค และเป็นรองประธานวิปรัฐบาล รับภารกิจเต็มเวลาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การแพ้ครั้งนี้เสียใจใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า อยู่กับพรรคมานาน และระบบของพรรคไม่มีทางลัด คนที่เข้ามาใหม่เห็นว่าพรรคควรจะมีการเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้น เราก็ต้องสนับสนุนการทำงาน และติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร