“หมอระวี” แนะปฏิรูประบบยุติธรรม ปมลดโทษ คดีทุจริต-คดีร้ายแรง ต้องแยกออกจากคดีทั่วไป

“หมอระวี”ซัด กฎหมายยุติธรรมสร้างปัญหา นักโทษโกงกินต่อบ้านเมือง กลับได้ลงโทษจำคุก ชี้ ต้องเร่งแก้ด่วน

วันนี้ (17 ธ.ค.) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวหารือในสภาฯ ว่า ตนขอหารือไปยัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในประเด็นการปฎิรูประบบยุติธรรม ซึ่งมีข้อสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ 1. ประเด็นนักโทษทุจริตต่อบ้านเมือง ได้การอภัยโทษ ลงโทษจำคุก ถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์ ของโทษที่ศาลตัดสิน ก็ออกจากคุกแล้ว และนักโทษคดีอาญาร้ายแรงฆ่าคนตายได้รับการลดโทษปล่อยตัวออกมา แล้วไปก่อคดีฆ่าคนตายใหม่ ในเรื่องนี้ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเร่งด่วนต้องมีการแยกคดีทุจริตต่อบ้านเมือง และคดีอาญาอย่างร้ายแรงในการเสนอลดโทษ แยกออกจากคดีอาญาทั่วไป

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 คือ การพิจารณาคดีทุจริตคอร์รัปชันต่อบ้านเมือง ที่กว่าจะเอาผิดได้ใช้เวลาหลายปีมาก ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม ปปช.ได้รับคดีใหม่ปีละหลายพันคดี แต่ดำเนินการได้เพียงปีละไม่กี่ร้อยคดี คดีที่ค้างอยู่ ปปช.นับหมื่นคดี ตนเสนอให้มีการแก้กฎหมายสำหรับคดีทุจริตต่อบ้านเมือง ให้กำหนดระยะเวลาให้รวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มสอบสวนจนตัดสินคดีเสร็จต้องใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี ให้มีการจัดตั้งศาลฎีกาคดีอาญาทุจริตต่อรัฐ สำหรับนักการเมือง,ข้าราชการ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยกำหนดไม่ให้มีการอุทธรณ์ เมื่อคดีล้นมือ ตนขอเสนอให้แก้ไข โดยการให้ตำรวจ, พนักงานสอบสวน, ดีเอสไอ, อัยการ, ศาล ทำโอที ซึ่งศาลจะสามารถพิจารณาคดีตั้งแต่ 17.00 น.เป็นต้นไปได้ นอกจากนี้ ให้มีการจ้างลูกจ้างชั่วคราว ระยะเวลา 2-3 ปี ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา, อัยการ, ตำรวจ, พนักงานสอบสวน เพื่อมาเร่งรัดคดีทั้งหมด