“บิ๊กตู่” เยือนปัตตานีชูแผนพัฒนาสร้างสมดุล ศก.-สุขภาพ ยันวัคซีนปลอดภัยขอให้ฉีดรับเปิดเมือง

นายกฯ ลงพื้นที่ปัตตานี กล่อมชาวบ้าน รัฐบาลมีแผนพัฒนาพื้นที่ สร้างสมดุลเศรษฐกิจ-สุขภาพ พร้อมทำให้ไทยคนทั้งประเทศ มีความสุข แม้ไม่อาจทำให้คนรักทั้ง 70 ล้านได้ ยันวัคซีนปลอดภัย ขอให้ไปฉีดกัน รับเปิดบ้านเปิดเมือง

วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 13.45 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พบปะสมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล และประชาชนที่เชื่อมโยงกลุ่มอาชีพเลี้ยงปูทะเลไปยังอาชีพอื่น ณ ศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเล บ้านโต๊ะโสม ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัด ระบุว่า ประชาชนชาวจังหวัดปัตตานี มีความรักความสามัคคี อาศัยร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมและค้าขาย ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำนากุ้ง นาเกลือ ท่าเทียบเรือ และการเลี้ยงปูดําทะเล เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากสภาพพื้นที่มีความเหมาะสม สนับสนุนควบคู่กับการอนุรักษ์ฟื้นฟูพันธุ์สัตว์น้ำ

นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปูทะเล โดยกล่าวว่า ศักยภาพในพื้นที่ภาคใต้มีมากมาย โดยเฉพาะด้านการเกษตร แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความยั่งยืน พร้อมกับกรรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปด้วย วันนี้คนพารัฐมนตรีมาด้วยหลายท่าน ตั้งใจมาเพื่อมาพบพวกเราเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการทำงานของพวกเรา และดูด้วยว่าพวกเรายังยิ้มออกหรือเปล่า แต่ก็เห็นว่ารอยยิ้มยังดีอยู่ แม้จะไม่เห็นหน้าเห็นตากันมากนัก แต่เราก็มีใจถึงกัน และที่ม่ก็ด้วยความคิดถึงจริง โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความยากจน รายครัวเรือน โดยจะเริ่มต้นเร็วๆ นี้ สิ่งเดิมที่ทำมาแล้วอาจจะต้องมีการปรับแก้ ปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการของประชาชนและสอดคล้องกับศักยภาพในพื้นที่ ที่สำคัญ เราต้องคำนึงการแปรรูปในตลาด ถ้าทำมากไปตลาดตก อาจมีความขัดแย้งกับภูมิภาค แต่ก็เห็นใจและรู้ว่าพี่น้องในภาคใต้ประกอบอาชีพพการเกษตร และไปทำเกษตรแนวใหม่ ใช้พื้นที่น้อย ได้ผลผลิตมากและมีคุณภาพ ทั้งการเกษตร ปศุสัตว์ ฮาลาล

วันนี้เรามีการเพาะเลี้ยงพันธุ์ปู อะไรก็ได้ที่ทุกคนทำแล้วพอใจ เป็นความคิดเห็นของประชาชนที่ให้ความร่วมมือกัน ตนสนับสนุนแต่ถ้าไม่ร่วมมือกันมันก็ไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็มีนโยบาย มีแนวปฏิบัติ มีกลไก มีกฎหมายทุกตัว แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับประชาชน การจัดสร้างจะทำอะไรต้องทำประชาผลการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ประชาพิจารณ์ ที่สำคัญคือ ต้องเกิดความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะวันหน้าเราต้องเจอปัญหาโลกร้อน จะต้องมีการปรับในเรื่องของพลังงาน มีเทคโนโลยี มีดิจิทัล เข้ามาแทรก ดังนั้น ทุกคนต้องฟังการเสนอข่าวของรัฐบาลบ้าง เพื่อให้รู้ว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าต่างคนต่างคิดต่างไม่ฟังกันมันก็ไปหมด ตนก็ฟังประชาชน ประชาชนก็ต้องฟังตนเองบ้าง เพื่อหาทางมาเจอกันและคิดร่วมกันไม่เช่นนั้นจะไปไม่ได้ทุกอัน แล้ววันนี้พอใจทุกกระทรวงทำให้พื้นที่ภาคใต้ดีขึ้น แต่ในใจของนายกฯคิดว่ามันต้องดีกว่านี้อีก เราว่างเว้นการพัฒนามานานมาก จากปัญหาความไม่สงบบ้าง อะไรบ้างแต่วันนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นและเราจะต้องมาหารือคิดกันใหม่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ดียิ่งขึ้น

นายกฯกล่าวต่อว่า วันหน้าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย เราต้องทำให้คนเหล่านี้มีอาชีพ มีรายได้ ไม่เป็นภาระ วันนี้เราต้องทำให้ลูกให้หลานเรา หลายอย่างรัฐบาลได้ออกมาหลายมาตรการ ทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยมาตรการคนละครึ่ง เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้ แม้จะทำให้ทุกคนร่ำรวยไม่ได้ เราก็ต้องมีวิธีการแก้ไขปัญหารายครัวเรือน เหมือนเมนูอาหาร เราจะสั่งอะไรเพื่อจะได้ส่งเสริมให้ถูกต้อง ดังนั้นจะต้องมีการรวมกลุ่ม เช่น การรวมกลุ่มเพาะปูทะเลนี้

“วันนี้พูดมาตั้งแต่เช้า แต่ก็ยังไม่หายคิดถึง คิดถึงจังฮู้ วันนี้เราอยู่ท่ามกลางพี่น้องไทยมุสลิมไทยพุทธ อัสลามูอาลัยกุม ไทยมุสลิม สวัสดีไทยพุทธ เราต้องอยู่กันด้วยพหุวัฒนธรรมแบบนี้ ต้องรักกันให้มั่น จับมือกันเดินไปข้างหน้า นำพาไปพร้อมกับรัฐบาล ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกับผมไม่ร่วมมือกับนายกฯไม่ร่วมมือกับรัฐบาล มันก็จะช้าตั้งแต่วันนี้ ซึ่งเราช้าต่อไปไม่ได้อีกแล้ว นายกฯก็เป็นใจร้อนด้วย ปัญหาเก่าก็อึดอาด ปัญหาใหม่ก็เกิด แต่ถ้าประชาชนเข้าใจในหลักเณฑ์ หลักการ ก็จะเกิดความไว้วางใจซึ่งกัน ยืนยันว่านายกฯซื่อตรงทุกเรื่อง ปราถนาดีกับพวกเราทุกคน พยายามทำอย่างเต็มที่ ฝากไปยังข้าราชการทุกคน ขอบคุณและให้กำลังใจทุกคน เราต้องเป็นข้าราชการยุคใหม่ ที่ทำงานเชิงรุก มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา อย่าทุจริต” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลต้องใช้เงินจำนวนมาก และขอให้เข้าใจว่ารายได้มาจากอะไร ถ้ารายได้ไม่พอในขณะที่มีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามา รายได้ก็ตกลง รัฐก็ต้องเอาเงินไปช่วยพวกเราทุกอย่าง ส่วนที่จะทำก็ทำไม่ได้ ดังนั้น ต้องเห็นใจรัฐบาล อย่าไปฟังข้อมูลที่แชร์แล้วบิดเบือน ตนไม่ต้องการให้ใครมารักทุกคน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ คนไทยตั้ง 70 ล้านคน แต่ตนกำลังทำให้คน 70 ล้านคนมีความสุข มันยากนะ มันง่ายหรือไม่ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายนัก แต่ตนก็ต้องดุแลคนทุกจังหวัด ภาคใต้ก็มีโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นมากมายอยู่ในแผนหมด

“รัฐบาลนี้เปิดให้รู้ว่าประเทศไทยจะเดินหน้าอย่างไรในอนาคต ดูแลทุกช่วงวัย เรื่องสุขภาพต้องขอเลยว่าควรป้องกัน ดีกว่าแก้ไข สาธารณสุขเตือนอะไรมาขอให้เชื่อหมอ คนใต้ตนรู้จักมานาน ต้องห่วงสุขภาพเรื่องฟันโดยเฉพาะผู้หญิง ฟันเสียหายเยอะ เพราะมีลูกหลายคน แต่นี่เป็นธรรมชาติ ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่แคลเซียมถูดลูกดึงไปเยอะ แม่ก็อ่อนแอ ฟันก็หายไปเรื่อย ระวังตรงนี้ด้วย แต่ตนไม่ได้ห้ามการมีลูก เดี๋ยวก็จะถูกบิดเบือนกันไปอีก” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญตอนนี้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อย่าไปตื่นตระหนก ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่ดีทีสุดในปัจจุบัน อย่างน้อยสองเข็ม รัฐบาลเร่งรัดให้มาฉีด ไม่ต้องกลัว แม้มันจะติดเชื้อภายหลัง แต่จะไม่รุนแรง และไม่ถึงตาย ให้เลือกเอา ถ้าไม่ฉีดเลยตาย อย่าไปฟังสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จริง วัคซีนทุกยี่ห้อเขาผลิตมาแนวนี้ ให้คนไม่ป่วยหนัก ให้ไม่ตาย ฉะนั้นไม่ต้องเลือกตนก็ฉีดมาแล้ว วันหน้าก็ต้องฉีดเข็มสามกัน แต่บางคนเข็มหนึ่งฉีดกันหรือยัง บังคับไม่ได้ แต่มันจะไปไหนไม่ได้ เพราะไม่ได้รับวัคซีน ในพื้นที่เขาจะไม่ไว้ใจ ถ้าไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ถ้าฉีดจะได้ไม่ติดคนอื่น เราจะได้เปิดประเทศ เปิดหมู่บ้านของเรา ให้คนมาเที่ยวได้ ถ้าคนไทยให้ความเชื่อมั่น และคัดกรองคนที่เข้ามา เขาก็จะเข้ามาเที่ยว เมื่อเราคัดกรองเขา เราก็ต้องคัดกรองตัวเราเองด้วย มีใบรับรองการฉีดวัคซีน อยากได้อะไรก็ต้องทำด้วยกัน ให้เขามาเราก็ต้องปลอดภัย เขาก็ต้องเชื่อใจเรา การเปิดประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องรออีกนิดนึง ต้องพูดคุยกันทั้งสองประเทศ เพื่อกำหนดมาตราการให้ต่างชาติเขารับมาตรการซึ่งกันได้ ที่ผ่านมาเราทำได้ดีตั้งแต่ต้นจนวันนี้