กสม. มีมติหยิบยกโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ขึ้นมาตรวจสอบ แนะ ศอ.บต. ทบทวนกระบวนการรับฟังความเห็น ขอบคุณ ครม.สั่งชะลอโครงการ จนกว่าการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์แล้วเสร็จ
วันนี้ (15 ธ.ค.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ และ นายสุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงว่า กสม.ได้รับร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีอ้างว่า การดำเนินโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จ.สงขลา ไม่ได้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง และการดำเนินโครงการอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยที่ประชาชนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ได้ปักหลักชุมนุม ณ บริเวณทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงสัญญาในการแก้ปัญหา ซึ่งจะต้องจัดให้มีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์แบบมีส่วนร่วมก่อนดำเนินการโครงการ ซึ่ง กสม. ได้ติดตามเฝ้าระวังและลงพื้นที่สังเกตการณ์การชุมนุมของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 64 ขอให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ชุมนุมและเร่งรับฟังเสียงของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีมติเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 64 หยิบยกและรับเรื่องร้องเรียนไว้ตรวจสอบ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 สำนักงาน กสม. ได้มีหนังสือแจ้งไปยังเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ขอให้พิจารณาทบทวนกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า ระหว่างวันที่ 13-23 ธ.ค. 64 มีการจัดรับฟังความเห็นของประชาชนเพื่อประกอบการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งใช้รูปแบบการประชุมทางไกลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทาง Zoom Cloud Meeting เท่านั้น โดย กสม. เห็นว่า กระบวนการรับฟังความเห็นจำเป็นต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจและสามารถแสดงความเห็นของตนได้อย่างเสรี การใช้รูปแบบการประชุมทางไกลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพียงช่องทางเดียว ย่อมส่งผลให้ประชาชนที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถรับทราบข้อมูลและแสดงความเห็นของตนได้ตามสิทธิที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะต่อโครงการนี้ที่ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน
ดังนั้น กสม. จึงขอให้ ศอ.บต. พิจารณาทบทวนกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนโดยเพิ่มรูปแบบหรือช่องทางที่เหมาะสมและหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การจัดเวทีประชุมรับฟังความเห็นในพื้นที่ดำเนินโครงการ เป็นต้น หรือชะลอการรับฟังความเห็นไว้ก่อนจนกว่าจะพิจารณาข้อเรียกร้องของประชาชนแล้วเสร็จ
“กสม. ขอขอบคุณที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวาน ให้หน่วยงานรัฐชะลอโครงการนี้ไว้ก่อน จนกว่าการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ SEA จะแล้วเสร็จ โดยให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดให้มีการทำ SEA โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอของภาคประชาชน เช่น เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น แต่ กสม. ขอเน้นย้ำให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกฝ่ายอย่างรอบด้านตามกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยและจริงใจ โดยกลไกของคณะกรรมการในการจัดทำ SEA ควรประกอบด้วยนักวิชาการที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน องค์กรภาคสังคม หรือสถาบันวิชาการที่มีความรู้และประสบการณ์ในการจัดกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อวางแผนเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับศักยภาพของการพัฒนาพื้นที่ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้กำหนดอนาคตของพวกเขาร่วมกันโดยไม่มีใครถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน พ.ย. 62 กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นแล้ว แต่ในระหว่างการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามคำร้องนี้ ตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องได้มีหนังสือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ขอถอนคำร้องจากการตรวจสอบเพื่อใช้สิทธิตามกฎหมายผ่านช่องทางอื่นแทน เรื่องร้องเรียนครั้งก่อนจึงเป็นอันยุติลง ซึ่งการตรวจสอบโครงการดังกล่าวในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ กสม. ห่วงใย และให้ความสำคัญในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงรับคำร้องใหม่พร้อมหยิบยกขึ้นตรวจสอบ โดยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านและเร่งด่วน