โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งคุมเข้มขนส่งสาธารณะเข้มงวด 10 มาตรการ เพื่อ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยวปีใหม่ปลอดภัยโควิด พร้อมติดตามสถานการณ์โควิด ช่วงวันหยุดวัน รธน. เตือน ปชช.ไม่ประมาทต้องป้องกันโควิด ทุกสายพันธุ์
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้มีการคุมเข้มการเดินทางของรถขนส่งสาธารณะทุกประเภทให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 และสอดรับกับนโยบายเปิดประเทศ โดยกรมการขนส่งทางบกได้ปรับปรุงมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 จำนวน 10 ข้อ โดยขอให้ผู้ประกอบการขนส่งปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. คัดกรองผู้โดยสารและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนการให้บริการ ต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
2. กำกับ ดูแล ให้พนักงานขับรถหรือผู้ให้บริการ และผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง
3. ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสภายในรถด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังการให้บริการ ทุก 2 ชั่วโมง
4. จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับพนักงานขับรถและผู้โดยสารล้างมือก่อนขึ้นรถ
5. งดให้บริการอาหารบนรถในระหว่างการเดินทาง (เว้นแต่กรณีที่มีเหตุจำเป็น)
6. จำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้า ผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น เพื่อความสะดวก หรือจัดคิวการเข้าซื้อตั๋วให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
7. จัดเก็บข้อมูลของผู้โดยสาร โดยให้ลงทะเบียน “ไทยชนะ” หรือแพลตฟอร์ม “THAI SAVE THAI (TST)” ก่อนการเดินทาง
8. หยุดหรือจอดรถให้ผู้โดยสารลงจากรถในสถานที่หยุดหรือจอดตามที่กำหนดไว้
9. จัดให้มีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศทุก 2 ชม.
10. สำหรับรถจักรยานยนต์ (จยย.) สาธารณะ ควรทำความสะอาดแฮนด์รถ เบาะนั่ง และหมวกกันน็อกสำหรับผู้โดยสารด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับประชาชนที่ใช้บริการ และควรงดการพูดคุยในระหว่างใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปีใหม่นี้คาดว่าประชาชนจะมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ขอให้ทุกคนป้องกันตนเองแบบสูงสุดครอบจักรวาล เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ได้ ในส่วนของผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะขอให้ปฏิบัติและควบคุม กำกับ ดูแลการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่จังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19
“จากสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยอยู่ในระดับลดลง ประชาชนได้รับวัคซีนทำให้มั่นใจกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น ทั้งทำงานและท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่มีการวางแผนเดินทางกลับภูมิลำเนา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในการใช้รถ ใช้ถนน โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อยากเห็นคนไทยมีความสุขในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เดินทางด้วยความมั่นใจและปลอดภัย โดยรัฐบาลจะทำทุกอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 เพื่อไม่ต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก” นายธนกร กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องใน วันรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค. 64
ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่องของหลายคนและตรงกับช่วงเวลาที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายเปิดประเทศและการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ อีกทั้ง เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือในหลายพื้นที่เริ่มหนาวเย็น คาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด -19 อย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง หลังพบผู้ติดเชื้่อสายพันธุ์โอไมครอนในประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามถึงแม้คนไทยจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ได้ ทุกคนไม่ประมาท ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบที่เคยทำกันมาอย่างต่อเนื่อง คือสวมหน้ากาก การ์ดอย่าตก ดูแลป้องกันตนเอง ไม่อยู่ในที่แออัด เว้นระยะห่างและหมั่นล้างมือทำความสะอาด เป็นต้น รวมทั้งขอให้คนไทยท่องเที่ยวอย่างมีความสุข หากทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขจัดไว้จะปลอดภัยแน่นอน
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนื้ มีจำนวน 4,193 ราย แยกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 4,087 รายผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 56 ราย
ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 21 รายผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 29 ราย
ผู้ป่วยสะสม 2,131,917 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 7,863 รายหายป่วยสะสม 2,055,525 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 56,717 รายเสียชีวิต 28 ราย ทั้งนี้ กรมอนามัย ยังได้สำรวจพฤติกรรมป้องกันโรค (DMH) ของ
ประชาชนในเดือนพฤศจิกายน 2564 พบว่าประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันโรค D - เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร ร้อยละ 80.26
M - สวมหน้ากากตลอดเวลาในที่สาธารณะ ร้อยละ 94.4 H -ล้างมือหลังสัมผัสสิ่งสกปรก สัมผัสร่วม ร้อยละ 91.5 จะเห็นได้ว่า ประชาชนยังคงพฤติกรรมป้องกันโรคโควิด- 19 อย่างสม่ำเสมอ
ในขณะที่ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน ณ วันที่ 10 ธันวาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ สะสม 96,418,573 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 49,581,322 ราย สัดส่วนต่อประชากรร้อยละ 74.91 เข็มที่ 2 จำนวน 42,885,075 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 3,925,157
“นายกรัฐมนตรี พอใจสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และดีใจที่เห็นคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนกว่า 50% รวมทั้งสถานประกอบการต่างๆ ส่วนใหญ่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับนักท่องเที่ยว ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าจะส่งผลให้ท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันหยุดนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง” นายธนกร กล่าว