“ประยุทธ์” และภริยา เป็นประธานพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ ๙ และเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม
วันนี้ (5 ธ.ค. 64) เวลา 07.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 ณ ท้องสนามหลวง โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ร่วมในพิธี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยลำดับพิธีดังนี้
เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยา เดินทางถึงปะรำพิธีบริเวณท้องสนามหลวง พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสนสงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล จบ สวดพระพุทธมนต์
จากนั้น ประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ ถวายเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป แล้ว นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตรจำนวน 10 ไตร พระสงฆ์สดัปกรณ์ อนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป โดย แบ่งพระสงฆ์เป็นสาย สายละ 6 รูป เสร็จพิธี
ต่อมา เวลา 08.30 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ร่วมในพิธี ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ดังนี้
นายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายความเคารพด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น นายกรัฐมนตรีวางพานพุ่ม จำนวน 2 พาน ในนามนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ภริยานายกรัฐมนตรีวางพานพุ่ม ในนามคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ณ ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ แล้วถวายความเคารพด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมผู้ร่วมพิธีถวายบังคม 3 ครั้ง ภริยานายกรัฐมนตรี นำเหล่าสุภาพสตรี หมอบกราบ
โอกาส นี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม ความว่า
ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่ได้มาชุมนุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ ที่แห่งนี้ ต่างร้อยรวมดวงใจเป็นหนึ่ง เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงพสกนิกรชาวไทยต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และจดจารึกไว้ในดวงใจอย่างมิเสื่อมคลาย 70 ปีแห่งการครองราชย์ เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่ปวงประชา ว่า ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อทำนุบำรุงอาณาประชาราษฎร์ สร้างความผาสุกร่มเย็นให้แก่ชาติบ้านเมือง ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินที่พระราชทานความรัก ความเอื้ออาทรห่วงใยแก่ราษฎรโดยถ้วนหน้า เมล็ดพันธุ์การพัฒนาในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายพันโครงการ ยังคงเจริญงอกงาม ผลิดอกออกผลทั่วสารทิศ หล่อเลี้ยงทุกชีวิต ทุกสรรพสิ่งบนผืนแผ่นดินไทย หลักในการดำเนินชีวิต ทั้งปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสที่พระราชทานในโอกาสต่างๆ ได้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้ทุกฝ่ายยึดถือปฏิบัติ ทั้งเป็นแนวทางสำคัญที่เป็นภูมิคุ้มกันให้พสกนิกรสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคมโลกยุคปัจจุบัน ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น พระองค์จึงสถิตอยู่ในดวงใจของทวยราษฎร์ตลอดมา ทรงเป็นประดุจดวงประทีปส่องชีวิตผองพสกนิกรทั่วหล้า ก่อเกิดความสมานฉันท์ นำมาซึ่งความเป็นปึกแผ่นของชาติไทย
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจักขอสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี และจักมุ่งมั่นเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท เพื่อร่วมกันพัฒนาและสรรค์สร้างสังคมไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าสืบไป