“แรมโบ้” ลุย “อุดรธานี” นั่งหัวโต๊ะประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหา และรับเรื่องร้องทุกข์ ก่อนนายกฯ และคณะลงพื้นที่ตรวจราชการพรุ่งนี้
วันนี้ (30 พ.ย.) ณ ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร อาคาร 1 ศาลากลาง จังหวัดอุดรธานี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมกับส่วนราชการ ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนและกลุ่มมวลชนต่างๆ ที่จะยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ นายกรัฐมนตรี และคณะ ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี ในวันที่ 1 ธันวาคม นี้ และได้มีการประชุมทางไกล ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ กับจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น เพื่อรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ไปในคราวเดียวกัน
นายเสกสกล กล่าวในที่ประชุมว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ปฏิบัติหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนและกลุ่มมวลชนต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่ต่อความเดือดร้อนของประชาชนถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี ได้กำชับไม่ให้กีดกันกลุ่มมวลชนที่เดือดร้อน ให้ทุกกลุ่มได้ยื่นหนังสือ และให้รีบนำสู่กระบวนการการแก้ไขโดยเร็วที่สุด ในครั้งนี้ ที่ประชุมได้แจ้งว่า มีกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนจะเข้ามายื่นหนังสือ เช่น กลุ่มปัญญาเรื่องที่ดินทำกิน เรื่องหนี้สินและผลผลิตของเกษตรกร ปัญหาจากโควิด-19 และกลุ่มอื่นๆ
นายเสกสกล กล่าวว่า นายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ และในครั้งนี้ นายกฯและคณะจะมาตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาติดตามโครงการคมนาคมและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และส่งเสริมเขตอุตสาหกรรมอุดรธานี พร้อมกับมอบให้ตนมาติดตามรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนและกลุ่มมวลชนต่างๆ เพื่อนำปัญหามาดำเนินการแก้ไขให้ประชาชนคลายความเดือดร้อน และในครั้งนี้ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานขอความร่วมมือจากหน่วยราชการ ทั้งในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อร่วมลงพื้นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์และรับทราบปัญหาของประชาชน เพื่อบูรณาการปัญหาไปแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้ หลังการประชุมได้มีกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเรื่องต่างๆ มาทยอยยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน นายเสกสกล จำนวนหลายราย ซึ่งได้รับเรื่องเพื่อนำเข้าสู่ที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีต่อไป